*นายกฯรับปากดูปัญหาพิพาทที่ดินชาวเล-หาดราไวย์ *

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีหรือ ครม.  พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงปัญหาชาวเล หาดราไวย์ โดยได้สั่งยกเลิกการพูดคุยในค่ายทหารและให้ไปหารือที่ศาลาว่าการจังหวัดแทน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายในการครอบครองโฉนดที่ดินในพื้นที่ข้อพิพาทระหว่างชุมชนชาวเลราไวย์ กับบริษัทบารอน เวิลด์ เทรด จำกัด เพื่อให้ชาวหาดราไวย์ไม่เกิดผลกระทบต่อที่อยู่อาศัย ยืนยันไม่รังแกชาวหาดราไวย์รัฐบาลยืนอยู่ข้างประชาชนและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายย้ำว่าจะดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ

ส่วนข้อมูลการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฏหมายของไทยไม่ตรงกับข้อมูลของไอยูยู นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เนื่องจากเกิดจากปัญหาการสื่อสารไม่ตรงกันซึ่งเข้าใจว่าเป็นความหวังดีของทุกคน โดยรัฐบาลมีความมุ่งมั่นและเต็มที่กับการแก้ไขปัญหากับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยพยายามแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ซึ่งมีจำนวนมาก แม้จะเห็นใจผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ แต่ที่ผ่านมาผู้ประกอบการก็ได้ประโยชน์มามาก ดังนั้นขอให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้าง

นายกรัฐมนตรี ได้กำชับ เรื่องภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะการใช้งบผูกพันระยะสั้น 2 ปี ระหว่าง 2559-2560 เพื่อไม่ให้ผูกพันไปถึงรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา  พร้อมกันนี้ ได้กำชับการวางแนวยุทธศาสตร์ชาติของคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ แผน 5 ปี ซึ่งจะนำวาระเร่งด่วน 11 วาระ และ 37 วาระของทั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.และ และสภาขับเคลื่อนและปฏิรูปประเทศ หรือ สปท.มาเร่งให้เกิดผลปฎิรูป   รวมถึงให้รัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้อง กำชับหน่วยงานข้าราชการ ด้านการเกษตร ดูแลเกษตรกร เพื่อให้สามารถอยู่ได้ และกระตุ้นเศรษกิจภาพรวมด้วย  

ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอดำเนินงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร  ระยะทาง  167 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 6 อำเภอใน  2 จังหวัดอีกด้วย เพื่อพัฒนาระบบรางของไทย เป็นรางคู่และมีความกว้างขนาดราง 1 เมตร ให้มีประสิทธิขนส่ง มีความเร็ว

ส่วนราคายางพาราดิบที่มีราคาสูงขึ้นนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ยางพารามีราคาสูงขึ้นกิโลกรัมละ 60-61 บาท  ซึ่งไทยจะร่วมกับมาเลเซียนำยางมาใช้กว่า 2 แสนตัน ที่ถือว่าเป็นการจัดการร่วมกันระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดรับเบอร์ซิตี้ที่ ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้ หรือในช่วงต้นปีหน้า ทางประเทศจีนและมาเลเซีย จะสนใจเข้ามาร่วมทุนในการจัดทำรับเบอร์ซิตี้