หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จัทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เห็นชอบร่างระเบียบการออกเสียงประชามติ 3 ฉบับที่เปิดโอกาสให้จัดเวทีแสดงความเห็นได้ ซึ่งไม่สอดคล้องกับกับคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ไม่ให้มีการแสดงความเห็นการรณรงค์ ต่อต้านให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ว่า กำลังหาทางออกที่ชัดเจนอยู่ แต่ถือว่าขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งจนนำไปสู่ความรุนแรง เพราะคสช. มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.จะลงพื้นที่ไปชี้แจงเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ จะต้องไม่มีความรุนแรง พร้อมบอกด้วยว่าแม้ว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้แล้วแต่ยังมีคนออกมาแสดงความเห็นอยู่ รวมทั้งไม่มีแนวคิดที่จะเชิญผู้นำจากต่างประเทศและกลุ่มเอ็นจีโอมาร่วมสังเกตการณ์ในการทำประชามติ เพราะมองว่าเป็นเรื่องไม่สมควรซึ่ง ประเทศไทยเป็นของคนไทย หรือจะให้ใครมาจัดสันปันส่วนประเทศให้
ส่วนส่วนกรณีที่คสช. จะตรวจสอบการสนทนาผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเรียกตัว นายสรนันท์ เสน่ห์ เข้าพบที่มณฑลทหารบกที่ 41 จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 28 เมษายนนี้ เนื่องจากพบว่ามีภาพและข้อความของนายสรนันท์ที่เป็นไปในลักษณะส่อเสียดหัวหน้า คสช.นั้น นายกรัฐมนตรีบอกว่า ตามกฎหมายการตรวจบทสนทนาในแอฟพลิเคชั่นไลน์ต้องมีการขออำนาจศาลก่อน แต่ทั้งนี้ต้องกลับไปคิดว่าควรทำอย่างไร หากมีการปลุกระดม ส่งข้อความนัดหมายรวมตัวเพื่อสร้างความวุ่นวายและความขัดแย้ง
ส่วนนายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ขออนุญาต คสช. เดินทางออกนอกประเทศ ตามคำเชิญของสหรัฐอเมริกาเพื่อชี้แจงสถานการณ์การเมืองไทย โดยระบุ ขอให้ดูความเหมาะว่าควรหรือไม่ควร เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เพราะขณะนี้ใครเป็นรัฐบาลก็ควรเชิญคนนั้นไป นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามกรณีที่ แกนนำพรรคเพื่อไทย วัฒนา เมืองสุข ขู่ฟ้องกลับคสช. หลังถูกควบคุมตัวปรับทัศนคติและจะร้องต่อองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เหตุถูกละเมิดสิทธิ โดยระบุว่าส่วนตัวไม่พูดถึงบุคคลนี้นานแล้ว
สำรหับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ขอศาลออกหมายจับพระธรรมมชโย หลังไม่ไปรายงานตัวต่อดีเอสไอตามหมายเรียก2ครั้ง นายกรัฐมนตรีระบุว่า ขอให้เป็นเรื่องของกฎหมาย และเมื่อได้มอบหมายให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบ คนนั้นก็ต้องทำ ซึ่งส่วนตัวไม่ชอบสร้างความขัดแย้งกับใคร เพราะจะมีคนมาหาประโยชน์ โดยเฉพาะช่วงนี้จะพูดน้อยลง เพราะไม่อยากไปอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง และขอให้ประชาชนรู้ว่า ทำเพื่อใคร