ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า วันนี้งดให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง เพราะยังมีงานอื่นต้องทำ ส่วนการเปิดเผยข้อมูลล็อบบี้ยิสต์ต่างประเทศ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ไปสอบถามกับสำนักข่าวอิสรา ที่มีการเปิดเผยข้อมูลไปแล้ว
ขณะที่นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ นบข.ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ทบทวนยุทธศาสตร์ข้าว โดยให้มีการปรับเวลาช่วงยุทธศาสตร์ข้าวช่วงแรกระหว่างปี 2560-2564 และให้มีการทบทวนทุกๆ 5 ปี โดยมอบหมายให้คณะทำงานแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรที่มีตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคมชาวนาเป็นผู้พิจารณา ที่ประชุม เห็นชอบตั้งคณะทำงานพิจารณาและศึกษาการจัดตั้งสถาบันพาณิชย์ข้าว ว่าควรมีรูปแบบการทำงานอย่างไร ไม่ให้ทับซ้อนการทำงานขององค์กรอื่นๆ กำหนดกรอบเวลาดำเนินงานภายใน 6 เดือน
ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการทบทวนการระบายข้าวที่เหลืออยู่ 11.4 ล้านตันโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ข้าวคุณภาพดีที่ผ่านมาตรฐาน ซึ่งเหลืออยู่แสนกว่าตันจะมีการระบายตามปกติ 2. ข้าวที่มีกองล้ม เป็นข้าวที่เสียหายและมีข้าวคุณภาพต่ำปะปนอยู่แต่ยังเป็นข้าวที่ผ่านมาตรฐาน ซึ่งมีทั้งกองที่มีข้าวคุณภาพต่ำปะปนอยู่ไม่เกินร้อยละ 20 กว่า 7.5 ล้านตัน สามารถประมูลได้ตามปกติ แต่ในส่วนของกองข้าวปริมาณคุณภาพข้าวต่ำเกินร้อยละ 20 จำนวน 1.5 ล้านตัน จะใช้วิธีการประมูลแบบยกคลัง โดยให้ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อตก. และ องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ดูเรื่องการขนย้าย และจะให้เจ้าของทำรายงานว่าจะนำไปดำเนินการในอุตสาหกรรมใด รวมถึงให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสุ่มตรวจ และ 3. ข้าวเสื่อมคุณภาพจำนวน 2.4 ล้านตัน จะใช้การประมูลทั่วไปแต่ต้องมีการควบคุมไม่ให้อยู่ในอุตสาหกรรมการบริโภคของคนและเข้มงวดการนำไปใช้ ทั้งนี้ในการระบายข้าวทั้งหมดเพื่อลดภาระเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ในการทำงาน และลดภาระค่าใช้จ่ายในการทำงาน ซึ่งจะต้องให้การระบายข้าวเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ รอบครอบและรัดกุมโดยจะเริ่มเปิดให้ประมูลข้าวได้ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากมีมติของ นบข.แล้ว โดยจะทยอยนำมาประมูลภายใน 2 เดือน ครั้งละล้านกว่าตัน เนื่องจากอยู่ในระยะปลอดภัยเพราะเป็นช่วงภัยแล้งที่ชาวนาไม่มีข้าวอยู่ในมือ คาดว่าจะประมูลได้ราคาไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาทและไม่ต่ำกว่าราคาตลาดโลก ขณะที่แนวโน้มราคาในขณะนี้ ข้าวขาว และข้าวเหนียวมีราคาดี ส่วนราคาข้าวหอมมะลิยังไม่ดีเท่าที่ควร จึงต้องหามาตรการมาดูแลให้ราคาดีขึ้น โดยอาจจะเปิดให้ประมูลล่วงหน้าเพื่อดึงราคาให้สูงขึ้น
ผู้สื่อข่าว: ปิยะธิดา เพชรดี