นายกฯมอบนโยบายยกระดับหมู่บ้าน/กรธ.หารือแนวทางประชาสัมพันธ์/กกต.พิจารณาจัดออกเสียงฯ*

ในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ที่ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

และในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)

ด้าน พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา “เพื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาลให้กับคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดและเครือข่าย” พร้อมกล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง “บทบาทของภาคประชาชนในการเสริมสร้างธรรมาภิบาล” ณ ห้องสีมาธานี แกรนด์ บอลรูม โรงแรมสีมาธานี จังหวัดนครราชสีมา

จากนั้นจะไปติดตามปัญหาภัยแล้ง ที่ตำบลบ้านปรางค์ อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล

จากนั้น นายสมคิด จะไปกล่าวบรรยายพิเศษเกี่ยวกับโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ที่ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์รังสิต

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ช่วงเช้าวันนี้ อัยการศาลทหารนัดฟังคำสั่งฟ้องคดีนักศึกษา-นักกิจกรรมจัดกิจกรรมนั่งรถไฟตรวจสอบทุจริตอุทยานราชภักดิ์

ส่วนร่างรัฐธรรมนูญที่จะมีการทำประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมนี้  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่กฎหมายประชามติมีผลใช้บังคับแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะชี้แจงทำความเข้าใจ โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุน

นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษก กรธ. เปิดเผยว่าในวันนี้ กรธ.จะมีการหารือในประเด็นแนวทางการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข โดยนายมีชัยจะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่รัฐ นอกจากนี้จะมีการหารือในประเด็นคำถามพ่วงการทำประชามติของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ด้วย

ส่วนคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะประชุมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างระเบียบที่เกี่ยวกับการจัดการออกเสียงประชามติ รวมถึงวางแนวทางปฏิบัติกรณีที่มีการร้องเรียนและร้องคัดค้านการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยได้เสนอความเห็นต่อ กกต.ว่าความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เป็นความผิดทางอาญา โดยกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ กกต.เป็นผู้เสียหายและมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด เหมือนกับกรณีการเลือกตั้งหรือกรณีการทำประชามติเมื่อปี พ.ศ.2550  ซึ่งหากมีการร้องเรียนการกระทำผิดในช่วงการแสดงความคิดเห็น จนถึงวันออกเสียง กกต.จะทำบันทึกแจ้งไปยังสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ เพื่อให้เข้าไปดูแลดำเนินตามขั้นตอนของคดีอาญาปกติต่อไป

นอกจากนี้ กกต. จะมีการหารือกรณีกลุ่มนักวิชาการสิทธิพลเมืองใส่เสื้อโนโหวตประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเป็นตัวอย่างว่า หาก พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติมีผลบังคับใช้ สามารถทำได้หรือไม่ และเห็นว่ากฎหมายรับรองการแสดงความคิดเห็นของประชาชน หากเป็นการแสดงความคิดเห็นเพียงอย่างเดียว ไม่มีการไปเดินแจกเอกสารก็น่าจะทำได้ ไม่เข้าข่ายเป็นความผิด แต่ขณะนั้น พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติยังไม่ประกาศใช้

กลุ่มการเมืองออกมาแสดงท่าที นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่าชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยระบุว่า ตั้งแต่คำปรารภที่ยอมรับความเป็นจริงทางการเมืองไทย ที่เกิดจากคนไม่เคารพกติกายึดหลักเฉพาะเปลือกผิว ไม่เอาแก่นแท้ไปประพฤติปฏิบัติ ทำให้เกิดการบิดเบือนการใช้อำนาจ นอกจากนี้ยังรู้สึกพอใจที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีการกำหนดเรื่องการปฏิรูปการศึกษา เพราะประเทศไทยมีปัญหาเรื่องนี้มากใช้งบมากแต่ไม่ได้ผล

หลังจากนั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็แถลงท่าทีเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เช่นกัน โดยท้วงว่า การลงประชามติไม่ควรดำเนินไปท่ามกลางความกลัวในการแสดงความคิดเห็น

ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษา นปช. กล่าวถึงผลเสียจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และสรุปว่า นปช. ไม่สนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ผ่านประชามติ

สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชนและ เครือข่าย จัดเสวนาหัวข้อ "คำถามพ่วงมีนัยอย่างไร" พร้อมทั้งมีการออกแถลงการณ์ ณ ห้องประชุมมาลัย หุวะนันท์ ชั้น 12 ตึกรัฐศาสตร์ 60 ปี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

และการไว้อาลัยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของไทย ซึ่งถึงแก่อนิจกรรมด้วยวัย 83 ปี 8 เดือน ขณะนี้ศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทราวาส ครอบครัวนำเงินบริจาคจากงานศพจัดตั้งมูลนิธิบรรหารศิลปอาชาเพื่อผู้ป่วยยากไร้โรงพยาบาลศิริราช และในวันนี้ นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา จะแถลงข่าว

ส่วนที่จ.สุพรรณบุรีมีการตั้งจุดให้ชาวสุพรรณบุรีลงชื่อไว้อาลัยที่ 4 จุดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร อุทยานมังกรสวรรค์ ในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สวนเฉลิมภัทรราชินี หอคอยบรรหาร-แจ่มใส หอเกียรติยศนายบรรหาร ศิลปอาชา และบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ อ.เดิมบางนางบวช ซึ่งพนักงาน และผู้ค้าพร้อมใจกันใส่เสื้อสีดำเป็นการไว้ทุกข์เป็นเวลา 10 วัน

..