สำนักงานบรรเทาสาธารณภัยของเอกวาดอร์รายงานยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ซึ่งเกิดขึ้นเกือบครบสัปดาห์ว่ามีผู้เสียชีวิต 602 ศพ บาดเจ็บ 12,492 คน ท่ามกลางความวิตกในชะตากรรมของผู้สูญหายอีก 130 คน และแม้ว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นนานเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว แต่ผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตยังคงอยู่ในอาการหวาดวิตก เนื่องจากเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.0 ขึ้นนอกชายฝั่งของเมืองปอร์โตวีโจ รวมอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นหลังเกิดแผ่นดินไหวกว่า 700 ครั้ง
สำนักงานบรรเทาสาธารณภัยเอกวาดอร์ เตือนว่า มีโอกาสเกิดอาฟเตอร์ช็อกเช่นนี้ไปอีกหลายสัปดาห์ พร้อมร้องขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ด้านรัฐบาลเอกวาดอร์และเจ้าหน้าที่องค์กรมนุษยธรรมต่างชาติกำลังเร่งแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรคแก่ผู้ประสบภัย แต่ความช่วยเหลือในบางพื้นที่ดำเนินไปด้วยความล่าช้าเนื่องจากถนนหลายสายถูกตัดขาด โดยมีรายงานล่าสุดว่า แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ทำให้อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 70,000 หลัง และทำให้ผู้ประสบภัยมากกว่า 26,000 คนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ต้องอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลเอกวาดอร์กำลังเผชิญกับรายได้ที่ลดลงจากการส่งออกน้ำมันดิบ ตัวเลขเศรษฐกิจที่เกือบติดลบ และภาวะการลงทุนในระดับต่ำ จนทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใจปรับขึ้นภาษีชั่วคราว รวมทั้งประกาศขายทรัพย์สินบางส่วน เช่น เขื่อนผลิตไฟฟ้าโซพลาโดรา และเตรียมออกพันธบัตรในต่างประเทศ เพื่อระดมทุนมาใช้ในการฟื้นฟูความเสียหายจากแผ่นดินไหว ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าความเสียหายถึง 2,000 – 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 700,000 ล้านบาท – 1 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐบาลเอกวาดอร์ได้เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวในเอกวาดอร์มากขึ้น เพื่อหวังรายได้จากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่บรรดานักท่องเที่ยวยังคงวิตกเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสซิกาในพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหว
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters