*มาเลเซียได้รับผลกระทบจากหมอกควัน-คลื่นความร้อน*

นายวัน จูไนดี ตวนกู จาฟาร์ รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียยังคงมีอากาศร้อนที่สุดเท่าที่เคยประสบมาในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่าอิทธิพลของปรากฏการณ์เอลนีโญและภาวะโลกร้อนทำให้อากาศแปรปรวนทั่วโลก อากาศร้อนมากขึ้น ขณะเดียวกันโรงเรียนในหลายรัฐของมาเลเซียปิดทำการในวันนี้ น้ำประปาที่มีอยู่ต้องถูกแบ่งเฉลี่ยกันใช้ นอกจากนี้ช่วงนี้หมอกควันพัดมายังกรุงกัวลาลัมเปอร์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นผลพวงจากเหตุไฟป่าในมาเลเซียเอง ไม่ใช่พัดมาจากอินโดนีเซีย เพื่อนบ้าน ดังเช่นที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อกรุงกัวลาลัมเปอร์และรัฐสลังงอร์

เขากล่าวว่ารัฐบาลจะแจ้งให้รัฐบาลของแต่ละรัฐทราบข้อมูลเรื่องนี้ แต่ละรัฐจะตัดสินใจเองว่าจะควรจะต้องใช้วิธีแบ่งสรรปันน้ำประปาหรือไม่ นอกจากนี้ปัจจัยร่วมอีกอย่างหนึ่งคือ คลื่นความร้อน หลังอุณหภูมิในมาเลเซียเพิ่มต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ ขณะนี้อุณหภูมิสูงเกิน 37 องศาเซลเซียส มากว่า 3 วันแล้วในรัฐเปอร์ลิสและบางท้องที่ของรัฐปาหัง ทำให้หลายโรงเรียนปิดการเรียนการสอนในวันนี้ ไม่ใช่การปิดโรงเรียนครั้งแรกในรอบปีนี้ ขณะเดียวกันระดับน้ำในเขื่อนหลายแห่งแห้งขอดหนักสุดในรอบหลายสิบปี เช่นในรัฐยะโฮร์ ทางภาคใต้ของประเทศ ต้องมีการแบ่งปันน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค คาดว่าหลายรัฐทางภาคเหนือของประเทศอาจจะต้องทำอย่างเดียวกันในเร็วๆนี้

นอกจากนี้ รัฐบาลมาเลเซียอยู่ระหว่างดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกรรมให้ผ่านพ้นช่วงฤดูแล้งปีนี้ มีการส่งเครื่องสูบน้ำและท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ไปช่วยบรรเทาภัยแล้งในหลายรัฐ เช่น รัฐเกดะห์และรัฐเปอร์ลิส แหล่งปลูกข้าวสำคัญของประเทศ ที่ผ่านมา ชาวนาในท้องถิ่นสามารถปลูกข้าวสำหรับการบริโภคในประเทศได้มากถึงร้อยละ 65 ในจำนวนนี้ข้าวกว่าครึ่งหนึ่งเพาะปลูกในรัฐเกดะห์และรัฐเปอร์ลิส คาดว่าคลื่นความร้อนอาจจะกระทบต่อการเพาะปลูกข้าวของมาเลเซียอย่างมากในปีนี้

CR:Mediacorp