สหภาพยุโรป หรือ อียู มีแนวโน้มขยายเวลาห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากไทยต่อไป เนื่องจากไทยไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมว่า ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายและแรงงานผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมประมงมีความรุนแรงลดน้อยลงกว่าเดิม แม้ว่าในช่วง 1 ปีมานี้ไทยจะมีการออกกฎหมายหลายฉบับก็ตาม ทั้งนี้ รายงานของสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า สมาชิกอียู 28 ชาติยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแก้ปัญหาประมง แม้ไทยจะยืนยันว่า มีการทำงานหนักเพื่อกำจัดปัญหาการทำประมงเถื่อนและการใช้แรงงานผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมการประมง
และในขณะที่อียูมีแนวโน้มที่จะคงมาตรการ “ใบเหลือง” ของไทย เช่นเดียวกับคิริบาส เซียร์ราลีโอน และตรินิแดดแอนด์โตเบโก แต่กลับถอนศรีลังกาออกจากกลุ่ม “ใบเหลือง” พร้อมขู่ว่าจะห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากศรีลังกาเป็นเวลา 4 ปี
ในรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า ไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารทะเลอันดับ 3 ของโลก มีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 8.1 ขณะที่อียูใช้มาตรการห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากไทยมานาน 1 ปี ระหว่างที่รอให้ไทยแก้ไขปัญหาการทำประมง ในแต่ละปีไทยส่งออกอาหารทะเลไปอียูเป็นมูลค่าระหว่าง 575 ล้าน - 730 ล้านยูโร ซึ่งอียูระบุว่า ในช่วงแรกที่ประกาศคำเตือนไทย ฝ่ายไทยก็มีการรายงานความคืบหน้าในการทำงานอย่างต่อเนื่องจากนั้นก็ลดน้อยลง แต่กลับได้รับรายงานจากกลุ่มองค์กรเอกชน และประเทศอื่นๆ มากขึ้นว่าการบังคับใช้กฎหมายลดลง อย่างไรก็ตามอียู ระบุด้วยว่าในการประชุมเดือนหน้านี้ระหว่างอียูกับผู้แทนทางการไทย ที่กรุงบรัสเซลส์ จะมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
..
F163
AP, voanews