เมาแล้วขับ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ แถลงข่าวการคุมประพฤติผู้กระทำผิดถูกศาลสั่งคุมประพฤติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ปีนี้มีผู้เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติทั่วประเทศ 5,655คดี แบ่งเป็นขับรถขณะเมาสุรา5,228 คดี คดีอื่นๆ 403 คดี คดีขับรถประมาท 24คดี เทียบกับปี 2558 มีจำนวนคดีเพิ่มขึ้น 1,177คดี คิดเป็นร้อยละ29.05 โดยจังหวัดที่มีสถิติคดีสูงสุด3อันดับ ได้แก่ กทม. 284 คดี ปทุมธานี 265 คดี และสกลนคร 223 คดี ร้อยละ90 ของคดีเมาแล้วขับช่วงสงกรานต์เป็นผู้ที่เป่าแล้วพบว่าเมาแต่สกัดกั้นได้ก่อนเกิดเหตุ
ตามปกติศาลจะสั่งให้คุมประพฤติด้วยการรายงานตัวปีละ4 ครั้ง และทำงานบริการสังคม โดยกรมคุมประพฤติ ได้เตรียมโปรแกรมบำเพ็ญประโยชน์ในโรงพยาบาล ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมนั้น คือการรับรู้การทำงานในห้องดับจิต ซึ่งโปรแกรมการทำงานบำเพ็ญประโยชน์ใน รพ. เป็นมาตรการกระตุ้นจิตสำนึก ให้ตระหนักถึงผลกระทบที่เหยื่อได้รับจากการเมาแล้วขับหรือขับรถเร็ว ปีนี้กรมจะใช้มาตรการเข้มข้นในการทำบริการสังคม แต่จะเป็นกิจกรรมใดต้องเหมาะสมกับศาลสั่ง ขณะนี้ หลายคดีอยู่ระหว่างสืบเสาะ เพื่อจัดงานบริการสังคมที่เหมาะสม
ทั้งนี้กฏหมายอาญาแก้ไขใหม่ เพิ่มอำนาจให้เป็นดุลยพินิจของเจ้าพนักงาน คุมประพฤติในการจัดให้ทำบริการสังคม โดยไม่ต้องถามความสมัครใจของผู้ถูกคุมประพฤติ อย่างไรก็ตาม พบว่า สถิติผู้ถูกคุมประพฤติที่ ทำผิดซ้ำปีนี้ คิดเป็นร้อยละ 5.18 หรือประมาณ 5,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผิดซ้ำจากที่ถูกเป่าเมาแล้วขับ ซึ่งมักอ้างว่าเมาเพราะเทศกาลพาไป.