*โจมตีทางอากาศถล่มซีเรีย/โอบามาเยือน ซาอุฯ/น้ำมันพุ่งหลังคนงานคูเวตประท้วง/มนุษย์กำลังทำลายโลก*

ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.

+++มีพลเรือนเสียชีวิตย่างน้อย 44 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบคนในวันอังคาร (19 เม.ย.) จากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศลงกลางตลาดสด 2 แห่งใน 2 เมืองทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย จากการเปิดเผยของกลุ่มสังเกตการณ์ พร้อมระบุเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกองกำลังรัฐบาล  ขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงที่เห็นพ้องกันระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ไม่ครอบคลุมถึงพื้นที่ซึ่งควบคุมโดยพวกอัล-นุสราและรัฐอิสลาม (ไอเอส)

+++หน่วยกู้ภัยในเอกวาดอร์เมื่อวันอังคาร(19เม.ย.) กำลังสูญเสียความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 7.8 เมื่อวันเสาร์(16เม.ย.)  เอเอฟพีอ้างข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยเอกวาดอร์ ระบุในช่วงค่ำวันอังคาร(19เม.ย.) ว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 480 คน บาดเจ็บ 2,560 คนและสูญหาย 1,700 คน  ประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ของเอกวาดอร์ กล่าวระหว่างลงพื้นที่ตรวจตราปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย คาดว่าแผ่นดินไหวน่าจะก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจที่พึ่งพาอุตสาหกรรมน้ำมันราว 2,000 ล้านถึง3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และอาจส่งกระทบต่อจีดีพีราวร้อยละ  2 ถึง 3  ความหวังที่ชาวเอกวาดอร์เหล่านี้จะพบญาติๆที่สูญหายค่อยๆจางหายไปทุกขณะ ด้วยในวันอังคาร(19เม.ย.) นายโฮเซ ซาร์ราโน รัฐมนตรีกิจการภายใน เผยว่าปฏิบัติการกู้ภัยจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นการค้นหาศพผู้เสียชีวิตแทน แต่ผู้รอดชีวิตต้องประสบปัญหาขาดน้ำ ไฟฟ้าและการขนส่ง

++++ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ออกเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบีย ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดเกี่ยวกับร่างกฎหมายที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในรัฐสภาสหรัฐฯ เนื่องจากมีหลักการเปิดทางให้ครอบครัวเหยื่อวินาศกรรม 9/11 สามารถฟ้องร้องรัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้  ขณะที่  ทำเนียบขาวยืนยันประธานาธิบดีอเมริกันเตรียมใช้สิทธิ์วีโต้ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า ซาอุ จะไม่เทขายพันธบัตรคลังและสินทรัพย์ในอเมริกาตามที่ได้ขู่เอาไว้ก่อนหน้านี้  จาก เหตุ 9/11 ในจำนวนคนร้าย 19 คนที่เป็นสมาชิกกลุ่มอัล-กออิดะห์ซึ่งก่อเหตุโจมตีในเหตุการณ์วินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน 2001 นั้น ส่วนใหญ่เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ผู้พิพากษาสหรัฐฯ ปฏิเสธคำร้องของครอบครัวเหยื่อวินาศกรรม 9/11 ในการเรียกร้องความรับผิดชอบจากซาอุดีอาระเบีย โดยให้เหตุผลว่า ซาอุดีอาระเบีย มีความคุ้มกันในฐานะที่เป็นรัฐาธิปัตย์

+++โฆษกศูนย์แก้ไขปัญหาวิกฤติของรัฐบาลเบลเยียมกล่าวว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่า กลุ่มนักรบที่ได้แรงบันดาลจากกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ถูกส่งเข้าไปยังเบลเยียมและยุโรปมากขึ้น รัฐบาลจึงยังคงสถานะเตือนภัยก่อการร้ายของประเทศไว้ที่ในขั้นสูงสุดอันดับ 2 คือ ระดับ 3 ต่อไป บ่งชี้ว่า มีแนวโน้มหรือเป็นไปได้ที่จะตกเป็นเป้าถูกโจมตี ก่อนหน้านี้รัฐบาลเบลเยียมได้ลดระดับการเตือนภัยลงมาอยู่ในระดับ 3 จากขั้นสูงสุดคือระดับ 4 ที่รัฐบาลประกาศไป 2 วันหลังเกิดเหตุโจมตีสนามบินซาเวนเทมและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินมาลเบคในกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันที่ 22 มีนาคม มีคนเสียชีวิต 32 ศพ ระดับการเตือนภัยของเบลเยียมอยู่ในระดับสูงสุดนับแต่นั้นมา อัยการเบลเยียมระบุว่าตำรวจได้ควบคุมชาย 2 คนที่ปรากฏในกล้องโทรทัศน์วงจรปิดว่ายืนอยู่ใกล้กับมือระเบิดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินและสนามบินเมื่อวันที่ 8 เมษายน บ่งชี้ว่าผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดกรุงบรัสเซลส์เสียชีวิตหรือถุกตำรวจจับกุมได้แล้วทั้งหมด

+++ราคาน้ำมันขยับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันเมื่อวันอังคาร(19เม.ย.) จากกำลังผลิตที่ลดลงของคูเวต จากการผละงานประท้วงของคนงานภาคปิโตรเลียม   สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 41.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล     

+++ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 49.44 จุด ปิด 18,053.60 จุด ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(19เม.ย.) พุ่งแรง ได้ปัจจัยหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 19.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,254.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++ทนายความของอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ บิน โมฮัมหมัดของมาเลเซียกล่าวว่า นายมหาเธร์ ซึ่งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ลาออกสืบเนื่องจากปัญหาคอร์รัปชั่นเอื้อฉาวของกองทุน 1เอ็มดีบีของรัฐบาล ได้ยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อขอให้ศาลสั่งอายัดทรัพย์สินของนายนาจิบ นอกจากนี้ นายมหาเธร์ต้องการให้ผู้นำมาเลเซียเปิดเผยรายละเอียดของทรัพย์สินทั้งหมดที่ถือครองในนามของเขาหรือบุคคลใกล้ชิดด้วย ก่อนหน้านี้ นายมหาเธร์และคนอีก 2 คนได้ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อเดือนมีนาคม เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายนาจิบในข้อหาคอร์รัปชั่นและใช้อำนาจโดยมิชอบ พร้อมทั้งกล่าวหานายนาจิบว่าใช้อำนาจก้าวก่ายมาหลายครั้งในการสอบสวนคดีคอร์รัปชั่นในกองทุนฯ

+++วารสาร “American Journal of Tropical Medicine” ได้อ้างกรณีศึกษาเมื่อครั้งที่ประเทศหมู่เกาะโซโลมอนในมหาสมุทรแปซิฟิกต้องเผชิญกับการพัดถล่มของพายุไซโคลน “อิตา” ในปี 2014 ซึ่งนอกจากพายุลูกนี้จะคร่าชีวิตผู้คนในหมู่เกาะแห่งนี้ไปอย่างน้อย 31 รายแล้ว  ทีมวิจัยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกที่เป็นผลพวงมาจากกิจกรรมของมนุษย์กำลังย้อนกลับมาทำร้ายมนุษย์ในระดับที่รุนแรงและน่าวิตก โดยนอกเหนือจากการเกิดพายุ ภาวะฝนตกหนัก และน้ำท่วมแล้ว การเกิดโรคระบาดหลังภัยพิบัติทางธรรมชาติ ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุกคามชีวิตของมนุษยชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีมากที่สุดอีกด้วย