นายกฯระบุ แต่งตั้งหลานชายรับราชการเป็นไปตามระเบียบ ชี้กรณีวัฒนา อยากให้โลกล้อมไทย

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้แต่งตั้งบุตรชายเข้ารับราชการทหาร สังกัดกระทรวงกลาโหมว่า เรื่องดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงกลาโหมที่เปิดรับตำแหน่งทุกปี แบ่งเป็นส่วนที่มีการสอบเข้าและคัดเลือกจากคณะกรรมการ ซึ่งบุตรหลานของกำลังพลมักจะได้รับการพิจารณาเพื่อมีความเคยชินกับระเบียบของทหาร และเรื่องของความไว้เนื้อเชื่อใจ ยืนยันว่าเรื่องนี้ ไม่ผิดพรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ที่ห้ามเรื่องการแต่งตั้งเครือญาติ เนื่องจากถือว่าเป็นคนละส่วนกัน และหากคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเข้ามาตรวจสอบก็ยินดี การแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวไม่จำเป็นต้องรายงานต่อนายกรัฐมนตรีให้รับทราบเพราะเป็นเรื่องการจัดการภายในของกองทัพ แต่ก็ได้ทราบเรื่องเป็นการส่วนตัวแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ตอบโต้แทนน้องชายขออย่ามองเพียงแค่นามสกุลเดียวกัน

นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวไม่คิดที่จะให้บุตรสาวเข้ามารับราชการทหาร เพราะบุตรสาวไม่มีความสนใจในด้านนี้และเห็นว่าพ่องานหนักมาตลอด

ส่วนกรณีที่บุตรสาวของนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยร้องเรียนต่อสหภาพยุโรป กรณีการถูกควบคุมตัวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ละเมิดสิทธิมนุษยชน ว่า จะให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ชี้แจง แต่ไม่ต้องการให้มองเป็นเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะนายวัฒนาได้ทำผิด ข้อตกลงกับคสช.มาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นหากปล่อยนายวัฒนาก็มีปัญหานี้ซ้ำอีก และยืนยันว่าหากฝ่ายใดกระผิดกฎหมายก็จะดำเนินการ ทั้งนี้มองว่าฝ่ายการเมืองต้องการให้ทหารเข้าไปดำเนินการ เพื่อที่จะได้เข้าสู่เหตุการณ์โลกล้อมประเทศตามนโยบายของใครบางคน นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ส่วนตัวไม่คิดจะมีเฟซบุ๊คหรือ ทวิตเตอร์ เพราะไม่มีใครพูดแทนได้

ด้านการรณรงค์ให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าได้สั่งการไปแล้วว่าห้ามรณรงค์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงการแสดงเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งหากพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้จะถือว่ามีความผิดโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี รวมถึงสื่อมวลชนหากทำผิดก็ต้องโดนดำเนินคดีด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันว่ายังไม่มีแนวทางในการปรับย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือที่นำไปพูดกันเอง

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึง กรณีที่ นางสาวรัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันมือหนึ่งของโลกที่เตรียมเดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรีว่า ได้เตรียมกำลังใจและของขวัญมอบให้ ขณะเดียวกันก็ต้องการให้เมย์ รัชนก เป็นแบบอย่างให้ประชาชน หันมาเอาดีทางด้านกีฬา แต่ห่วงเพียงอย่างเดียวคือ จะเหนื่อยมากหากออกงานบ่อยก็จะทำป่วยไข้ไม่สบายได้

ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ได้อนุมัติการส้รางรถไฟฟ้าในหลายสาย โดยจะทำให้เกิดความโปร่งใส ในการใช้จ่ายงบประมาณและใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศเพื่อลดรายจ่าย รวมไปถึงเรื่องการเก็บภาษีที่เป็นธรรมทุกภาคส่วน เรื่องการช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่นและประเทศเอกวอดอร์ ที่ประสบเหตุแผ่นดินไหว ได้ให้เงินช่วยเหลือไปแล้ว 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ ตามมาตรฐานและเสนอให้ความช่วยเหลือทางด้านอื่นแล้ว