*เอกชนพร้อมหนุนรัฐ ใช้นวัตกรรมเพิ่มมูลค่าสินค้า-เศรษฐกิจ*

การประชุมคณะทำงานสานพลังประชารัฐ ของคณะกรรมการสานพลังประชารัฐทั้ง 12 คณะ เพื่อประสานการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับเอกชน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ สามารถช่วยพัฒนาในด้านต่างๆ ของประเทศ ขณะนี้ได้มีความคืบหน้า ทั้งในส่วนของการปฏิรูปภาคการเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า การพัฒนาด้านการศึกษาเพื่อใช้บุคลากรทางด้านอาชีวศึกษาในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ และการปรับปรุงข้อกฎหมายสำคัญเพื่อให้ภาคธุรกิจเดินหน้าได้อย่างสะดวก คาดว่าหน่วยงานภาครัฐจะร่วมกันปรับปรุงทั้งระบบได้ภายใน 2 ปี เพื่อขยับอันดับของไทย ในเรื่องความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ 49 ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 1 ใน20 ของโลก แม้ต้องปรับเปลี่ยนรัฐบาลในช่วงต่อไป

นายกานต์ ตระกูลฮุน ประธานคณะทำงานสานพลังงานประชารัฐภาคเอกชน กล่าวว่า การพัฒนาด้านนวัตกรรม จะเป็นส่วนสำคัญให้ธุรกิจประสบความสำเร็จขององค์กรขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หรือแม้แต่วิสาหกิจชุมชน ดังนั้น เมื่อภาคเอกชนรายใหญ่ ได้มุ่งเน้นการลงทุนทำวิจัยและพัฒนา การเพิ่มนักวิจัยในตลาดให้มากขึ้น จากปัจจุบันอยู่แค่ 40,000 คน หรือ 10.5 คนต่อ 1 หมื่น ให้เทียเท่ากับประเทศอื่น ซึ่งมีจำนวน  70 คนต่อ 1 หมื่น เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้จะช่วยสนับสนุนธุรกิจในกลุ่มสตาร์ทอัพ โดยในวันที่ 28 เมษายน จะเป็นการจัดงานให้ความรู้และข้อมูลให้กับธุรกิจในกลุ่มนี้

นายสุพันธ์ มงคลสุธี อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เตรียมลงพื้นที่กับสถาบันการศึกษา 138 แห่ง เพื่อเข้าไปให้ความรู้กับนักเรียน นักศึกษา ต่อยอดนวัตกรรม และ sme เพื่อให้เห็นภาพนวัตกรรมใหม่ที่จากคนรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด จึงต้องให้ความสำคัญปฏิรูปการศึกษา ประสานความรวมมือจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อนำผลการศึกษาพัฒนาด้านต่างๆทัดเทียมนานาชาติ

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนการนำเทคโนโลยีใหม่มาสร้างมูลค่าเพิ่มในกลุ่มเกษตรกร  และส่งเสริมให้รวมตัวกัน  เพื่อสร้างความเข้มแข็งได้ในชุมชน