+++จากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.1 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ศูนย์กลางอยู่ลึกใต้ดิน 135 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงเหนือเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมา มีรายงานเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยต้องหนีออกจากอาคารโรงพยาบาลสูง 7 ชั้นในนครย่างกุ้ง เพราะรับรู้แรงสั่นไหวที่เกิดขึ้นนาน 2 นาที แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายอื่นๆ ในเมียนมา แผ่นดินไหวครั้งนี้ ยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงในรัฐอัสสัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ซึ่งเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคทพระชายา ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์แห่งราชวงศ์อังกฤษ กำลังประทับอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติคาซิรังกา แต่ทั้งสองพระองค์และคณะผู้ติดตามปลอยภัยดี ซึ่งทั้งสองพระองค์มีกำหนดการณ์เสด็จเยือนภูฎาณในวันพฤหัสนี้ ขณะที่ผู้คนในเมืองโกลกาตาของอินเดีย รับรู้แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวดังกล่าว จนต้องพากันวิ่งแตกตื่นออกจากอาคารบ้านเรือนมาอยู่บนถนน เช่นกันรวมทั้งในกรุงธากาของบังกลาเทศที่อยู่ห่างศูนย์กลางแผ่นดินไหวออกมาราว 480 กิโลเมตร
+++ส่วนที่ฟิลิปปินส์ เกิดแผ่นดินไหวระดับ 6 ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงเช้า แรงสั่นสะเทือนทำให้กำแพงบ้านเรือน 3 หลังพังถล่ม และอีกหลังเสียหายเล็กน้อย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดซัมบวงกา เดล นอร์เต แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่รุนแรงพอที่จะทำให้เกิดสึนามิ
+++การประเมินสถานการณ์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ภาพรวมความมั่นคงค่อนข้างเรียบร้อยและสงบสุข ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ด้านเจ้าหน้าที่ได้มีการอำนวยความสะดวก ให้บริการประชาชนอย่างต่อเนื่อง แต่ยังพบผู้ประสบอุบัติเหตุค่อนข้างสูง จากนี้จะย้ำเจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการคุ้มครองมากขึ้น และจากการติดตามข้อมูลทางด้านการข่าวยังไม่พบแสดงความคิดเห็น หรือเคลื่อนไหวใดที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
+++พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. เปิดเผยว่า จากมาตรการ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ พบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ ในวันที่ 13 เมษายน 2559 รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 20,769 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถจักรยานยนต์ไว้ 743 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 10,912 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 23,447 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 340 คน ยึดรถยนต์ 273 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 5,456 คน
+++รองโฆษกคสช. กล่าวว่า ตลอด 5 วัน 9-13 เมษายน 2559 ตรวจพบผู้กระทำผิด 64,310 คน เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้วจำนวน 1,565 คัน แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 1,182 คัน และรถยนต์ 383 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ในส่วนรถจักรยานยนต์ 19,577 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคล 10,593 คน
+++การปราบปรามยาเสพติดช่วงเทศกาล พล.ต.ต.ถาวร ขาวสะอาด ผบก.ปทุมธานี พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต พล.ต.ประชุม กรุดสาท ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหม่ต่อสู้อากาศยาน พร้อมตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด จับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืน ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจับกุมนายธวัชชัย อ้อมชมพู หรือก้าว อายุ 28 ปี ได้ยาบ้าจำนวน 10 เม็ด ที่ถนนเลียบคลองหมู่ 4 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาในคดีความผิดมี ยาบ้า ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
+++จากนั้นตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.ปากคลองรังสิต ขยายผลเพื่อจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ โดยติดต่อซื้อ ยาบ้า จำนวน 200 เม็ด และไอซ์ จำนวน 3 กรัม จากนายจักษณะพงศ์ ศรีษะแก้ว หรือจอย อายุ 28 ปี และนส.รัชนี อิทรสอน อายุ 29 ปี ทั้งสองคนอยู่บ้านเลขที่ 1/2 หมู่ 1 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยนัดหมายส่งมอบยาเสพติดกันบริเวณริมถนนสายติวานนท์ หมู่ 1 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งสองไว้ได้ และตรวจยึดของกลางได้จากที่เกิดเหตุ คือ ยาบ้า จำนวน 200 เม็ด ไอซ์ จำนวน 3 กรัม อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด และกุญแจห้องพร้อมคีย์การ์ดหอพักปัญชฎาเพลส ห้อง210 ชั้น2 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ เจ้าหน้าที่จึงให้นายจักษณะพงศ์ ไปยังห้องพัก สามารถตรวจค้นพบของกลางที่ห้องพักคือ ยาบ้า จำนวน 12,799 เม็ด ไอซ์ น้ำหนักรวมถุงจำนวน 100 กรัม สมุดบัญชีลูกค้า สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทยมีเงินหมุนเวียนกว่า 3 ล้านบาท จึงควบคุมพร้อมของกลางทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมาย
CR:แฟ้มภาพ