*เมาแล้วขับ กรมคุมประพฤติเสนอบำเพ็ญประโยชน์ที่ห้องดับจิต สธ.พร้อมขอเป็นคำสั่งศาล*

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงมาตรการรณรงค์เมาไม่ขับ ช่วยลดอุบัติเหตุ พบว่า มีผู้เสนอให้ส่งผู้ที่กระทำผิดเมาแล้วขับในช่วงเทศกาลหยุดยาวไปดูงานในห้องดับจิต ห้องไอซียู และแผนกอุบัติเหตุของโรงพยาบาลภาคีเครือข่าย โดยต้องมีการทำงานบริการสังคมในโรงพยาบาลอย่างน้อยเป็นเวลา48ชั่วโมง ซึ่งครม.เห็นชอบแนวทางดังกล่าว อีกทั้งกระแสสังคมให้การตอบรับเชื่อว่าจะสามารถลดสถิติเมาแล้วขับจากอุบัติเหตุได้ อย่างไรก็ตาม กรมคุมประพฤติจะไม่ก้าวล่วงดุลยพินิจของศาล โดยพร้อมดำเนินการคุมประพฤติและจัดการบริการสังคมตามศาลเห็นสมควร 

ธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวต่อว่า ในช่วงหยุดยาวจะประชุมร่วมกับโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายให้เตรียมความพร้อมรับตัวผู้ถูกคุมประพฤติคดีเมาแล้วขับให้เข้าไปดูบรรยากาศภายในห้องดับจิตและแผนกอุบัติเหตุ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ว่าหากเมาแล้วขับมี 2 โอกาสคือเข้าไปทำงานบริการสังคมกับเป็นผู้ใช้บริการในห้องดับจิต เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะลดอุบัติเหตุได้ไม่น้อยกว่า 10-20% ทั้งนี้ ย้ำว่ากรมคุมประพฤติจะเข้มงวดกับการดูแลผู้ถูกคุมประพฤติ โดยจะมีมาตรการใหม่ ๆ ออกมาบังคับใช้เพื่อปรับพฤติกรรมของผู้กระทำผิด 

สำหรับสถิติผู้ถูกคุมประพฤติคดีเมาแล้วขับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ย้อนหลัง5ปี ตั้งแต่ปี 2554-2558 พบว่ายังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยปี 2554 มีผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 6,032 คดี ปี2555มีผู้ถูกคุมประพฤติ 5,005 คดี ปี 2556 มีผู้ถูกคุมประพฤติ 4,691 คดี ปี 2557 มีผู้ถูกคมประพฤติ 3,826คดี และปี 2558มีผู้ถูกคุมประพฤติ 4,051 คดี โดยกรุงเทพมหานครถือเป็นพื้นที่ที่มีผู้ถูกคุมประพฤติคดีเมาแล้วขับสูงสุดต่อเนื่อง

ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้ประสานกับกรมคุมประพฤติ ขอให้ศาลสั่ง เป็นอำนาจของศาลที่จะให้ผู้ทำผิดไปทำกิจกรรมในลักษณะไหน ถ้าหากจะมาที่โรงพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขก็ยินดีที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้  สำหรับกรณีการให้ไปช่วยงานที่ห้องดับจิตนั้น ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยกระตุก ให้ตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก็สามารถที่จะทำได้แต่ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ละเมิดผู้เสียชีวิต และญาติ ซึ่งคิดว่าคงไม่มีใครอยากไปเห็น แต่เมื่อได้เห็นสภาพอาจสร้างความตระหนัก มีการพูดคุยกันในสังคม โดยมุ่งหวังให้เกิดความปลอดภัยจากจราจรขึ้นในสังคม