*สรุปข่าว 19.35น*
+++การดูแลสถานการณ์ช่วง เทศกาลสงกรานต์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาว เทศกาลสงกรานต์ ฝ่ายความมั่นคงได้ดูแลภาพรวมของประเทศได้ดีอย่างต่อเนื่อง และไม่ต้องสั่งการอะไรเพิ่มเติม รวมถึง ยังไม่มีการส่งสัญญาณความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ ในช่วงก่อนการทำประชามติ ซึ่งต้องการให้ทุกฝ่ายจะเห็นถึงความสงบสุขของประเทศชาติ และไม่ควรกระทำการที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนพรรคการเมือง รวมถึง นักการเมือง กลุ่มต่างๆ ไม่เห็นด้วยกับคำถามพ่วงประชามติ ที่ให้อำนาจ ส.ว. มีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี ได้นั้น พล.อ.อนุพงษ์ ระบุว่า หากเป็นเพียงการแสดงความเห็นก็สามารถทำได้ แต่หากเป็นการปลุกปั่นทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งส่วนตัวมองว่า ไม่เหมาะสม เช่นเดียวกับ การวิพากษ์วิจารณ์ให้เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์มากเกินไป
+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยหลังการหารือร่วมกับตัวแทนกรรมการการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และผู้แทนจากสำนักเลขาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการเผยแพร่เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญแล้ว โดยเบื้องต้น กกต.จะเป็นผู้จัดพิมพ์และเผยเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญ ใน 4 รูปแบบ คือ 1.พิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเต็ม 1 ล้านฉบับ 2.พิมพ์สาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ 35 หน้า 3.พิมพ์คำอธิบาย 10 เรื่องสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญในรูปแบบของการ์ตูน 14 หน้า อย่างละ 4 ล้านฉบับ ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบจะเสร็จและเผยแพร่ได้ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้
+++นายสมชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนรูปแบบที่ 4 กกต.จะจัดพิมพ์คำสรุปเนื้อหาของร่างรัฐธรรมอย่างสั้น รวมถึงคำอธิบายเรื่องคำถามพ่วงและคำอธิบายการออกเสียงประชามติ รวมประมาณ 6 หน้า พิมพ์แจกจ่ายทั้ง 17 ล้านครัวเรือน ให้เสร็จภายใน 15 วัน ก่อนวันออกเสียงประชามติด้วย ส่วนขณะที่การจัดเวทีชี้แจงประชาชนนั้น กรธ.จะร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย เปิด 39 เวทีทั่วประเทศ จากนั้นจะกระจายให้ความรู้ประชาชนในระดับหมู่บ้านด้วย แต่ในส่วนของ กกต.จะไม่มีการจัดเวที หรือเปิดการดีเบตสด เนื่องจากกฎหมายไม่รองรับ แต่จะเป็นการจัดรายการออกอากาศสดทางสถานีโทรทัศน์ 10 ครั้ง ทั้งนี้แม้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่ กกต.จะมีการประชุมในวันที่ 18 เมษายน เพื่อหารือว่าสิ่งใดที่ทำได้หรือทำไม่ได้ เนื่องจากมีกรณีที่ยังคลุมเครือ จึงต้องคุยกันให้เกิดความชัดเจน แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้เกิดปัญหา ถ้าไม่ได้ใช้ถ้อยคำที่บิดเบือน
+++นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ในฐานะรองประธานอนุกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า จากกรณีที่มีผู้ลอบวางระเบิดในรถจักรยานยนต์บริเวณหน้าสถานีรถไฟจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา ในช่วงเย็นของวันที่ 11 เม.ย จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 และผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย การกระทำเช่นนี้ถือเป็นกระทำที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง ทั้งนี้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และเร่งให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาต่อครอบครัวผู้สูญเสียและผู้ที่ได้รับความเสียหาย อย่างเป็นธรรมโดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้โดยเร็ว พร้อมทั้งขอให้ประชาชนและทุกภาคส่วนร่วมมือช่วยกันเฝ้าระวังสอดส่อง และสังเกตการกระทำต่างๆ เพื่อป้องกันการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวว่า ครม.มีมติแต่งตั้ง นายประสิทธิ์ ชูเมือง ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต.) ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป.
+++พลเอกวิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมกับทางผู้บริหารการท่าอากาศยานแห่งประเทศ(ทอท.) เพื่อติดตามผลจากการทึ่ได้มีการประชุมและขอความร่วมมือให้ร้านค้าภายในท่าอากาศยานบริเวณก่อนขึ้นเครื่องและภายนอกอาคารแต่อยู่ในบริเวณสนามบินดอนเมือง ให้มีการจำหน่ายอาหารและน้ำดื่มบรรจุขวดขนาด 500-600 มิลลิลิตร ในราคาไม่เกิน 10-12 บาทและอาหารสำเร็จรูปเฉลี่ยอย่างน้อย 50 บาทนั้น พบว่ายังไม่เป็นไปตามการขอความร่วมมือจำหน่ายไม่เกิน 50 บาท เพราะยังติดขัดในเรื่องของสัญญาที่มีการทำไว้กับท่าอากาศยานอยู่ โดยพบว่าราคาจำหน่ายอาหารสูงกว่าภายนอกร้อยละ 40 -200 แต่จากข้อตกลงให้สามารถจำหน่ายสูงกว่ามาตรฐานของห้างสรรพสินค้าเพียงร้อยละ 20 โดยผู้ตรวจการแผ่นดินจะขอดูสัญญาการเช่า ระหว่างการท่าฯกับร้านค้าทั้งหมด เพื่อนำมาเปรียบเทียบและศึกษา ว่าจะสามารถดำเนินการแก้ไขสัญญาเดิมได้หรือไม่ โดยให้เวลาการท่าฯ ไปรวบรวมสัญญาให้เสร็จภายใน 30 วัน และทางผู้ตรวจการจะร่วมกับหน่วยงานภาครัฐไม่ว่าจะเป็นกรมการค้าภายใน. สคบ ที่จะร่วมกันดูสัญญาดังกล่าวภายในเดือนพฤษภาคมนี้ คณะผู้ตรวจการแผ่นดิน จะลงพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้เพราะที่ผ่านมายังได้รับการร้องเรียนในการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในราคาสูง
+++ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวสั้นๆว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร หลังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ชี้ว่าผลการตรวจสอบโครงการประดับไฟแอลอีดีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวมูลค่า 39.5 ล้านบาท บริเวณลานคนเมืองของกรุงเทพมหานคร พบพิรุธเรื่องระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่โปร่งใสและอาจเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน รวมทั้งอาจมีการฮั้วประมูล โดยยืนยันว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกเรื่องเพื่อยืนยันความโปร่งใส
+++การลงพื้นที่ตรวจค้นบ้านผู้มีอิทธิพล ที่ละเมิดต่อกฎหมาย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่จ.อุทัยธานี ในฐานะผอ.ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง โดยมีการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้งหมด 11 จุด จับกุมตัวดำเนินคดี กับผู้กระทำความผิด คือนายปภาวิชญ์ บุษวะดี ในความผิดฐาน “มียุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะกันกระสุน) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”, นายอภิรัตน์ ชินพีระเสถียร ในความผิดฐาน “มีสัตว์พาหนะไว้ในความครอบครองโดยไม่มีตั๋วรูปพรรณ, นำสัตว์พาหนะข้ามเขตโดยไม่ผ่านการตรวจของแพทย์, มีซากสัตว์ (เขาสัตว์ป่าคุ้มครอง) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” นอกจากนี้ของกลางประเภท อาวุธปืน, เครื่องกระสุนปืน, ไม้แปรรูป, งาช้าง อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หากผิดกฎหมาย จะได้ดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยการสืบสวนของทหารตำรวจตรงกันว่า พื้นที่ จ.อุทัยธานี มีความเคลื่อนไหวของผู้มีอิทธิพล เครือข่ายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต สส.อุทัยธานี และทั้ง 11 จุดวันนี้เป็นเครือข่ายนายชาดาทั้งหมด พฤติการณ์กลุ่มนี้เข้าข่าย 16 ฐานความผิดของผู้มีอิทธิพล ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พยายามติดต่อนายชาดา ก็ไม่สามารถติดต่อได้ แต่จากการสืบสวนพบว่านายชาดา มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูล
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ระดับ 1,385.42 จุด เพิ่มขึ้น 15.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 31,023.80 ล้านบาทการที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น คาดว่าจะเป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวน์ แต่วอลุ่มเทรดโดยรวมไม่ได้มากนัก เนื่องจากตั้งแต่วันพรุ่งนี้ตลาดฯจะปิดทำการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ขณะที่ตลาดในยุโรปที่เทรดในช่วงบ่ายนี้จะติดลบเล็กน้อย เนื่องจากต่างกำลังรอดูหลายปัจจัยทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน, กำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ, การปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF), การประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกโอเปก ในวันที่ 17 เม.ย.นี้ รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะกลับมาแข็งค่าได้อีกหรือไม่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทยอยออกมาในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการในช่วงเทศกาลสงกรานต์
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดเพิ่มขึ้น หลัง เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก และยังช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทญี่ปุ่น ปิดเพิ่มขึ้น 177.66 จุด ที่ 15,928.79 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 63.63 จุด ที่ 20,504.44 จุด
+++รัฐมนตรีกระทรวงคลังในกลุ่ม G-20 คาดว่า จะหารือกันเกี่ยวกับวิธีการที่จะป้องกันการเลี่ยงภาษีในการประชุมที่จะจัดขึ้นสัปดาห์นี้ ภายหลังจากที่เกิดเหตุปานามา เปเปอร์ ซึ่งเกี่ยวพันกับนักการเมืองและนักธุรกิจจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่กรุงวอชิงตัน โดยมีรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางซึ่งคาดว่า อาจจะเรียกร้องให้ภูมิภาคที่เคยถูกขนานนามว่าเป็นแหล่งกบดานการเลี่ยงภาษีให้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชิการเงิน ซึ่งคาดว่า จะมีประเทศต่างๆเข้าร่วมประมาณ 100 ประเทศ