การตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการตรวจเยี่ยมประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมทั้งตรวจวัดแอลกอฮอล์และตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถก่อนออกเดินทาง ร่วมกับ บริษัทขนส่ง จำกัด หรือ บขส.และกองตรวจการขนส่ง กรมการขนส่งทางบก ที่หมอชิต 2
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ประชาชนเดินทางออกมากที่สุด สำหรับข้อมูลเมื่อช่วงเวลา 16.00-17.00น. มีประชาชนเดินทางออกไปแล้วกว่า 121,000 คนแล้ว ซึ่งบขส.เตรียมไว้ทั้งหมด 200,000 คน/วัน แต่หากมีผู้ใช้บริการเพิ่ม ก็ได้มีการเตรียมมีรถเสริมไว้รองรับ ด้านราคาค่าโดยสารได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก บริษัทที่นำรถเข้าร่วมให้บริการดูแล ส่วนมาตรการที่สำคัญในปีนี้ได้เน้นย้ำในเรื่องของการคาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งปัจจุบันนี้รถของบขส.ใช้ข้อบังคับเรื่องการคาดเข็มขัดทุกครั้งและพนักงานขับรถจะต้องแนะนำตัวเองต่อผู้โดยสารก่อนออกเดินทาง โดยพนักงานทุกคนของบขส. มีใบขับขี่เป็นของตัวเองที่จะใช้ในการลงทะเบียนก่อนที่จะสตาร์ทรถได้ ถ้าบัตรไม่ตรงสตาร์ทรถไม่ติด ถ้าไม่รูดบัตรเอง ก็สตาร์ทรถไม่ได้ เมื่อรูดบัตรแล้วสตาร์ทรถแล้วข้อมูลก็จะส่งไปที่ กรมการขนส่งทางบก มีศูนย์ GPS ที่คอยติดตามรถคันนี้ ตลอดระยะทาง ก็เป็นการเพิ่มเติมในเรื่องการมาตรการความปลอดภัยสำหรับการเดินทางของรถโดยสารสาธารณะ
ส่วนอีกเรื่องคือรถตู้ตอนนี้การตรวจเช่นเดียวกันในเรื่องการคาดเข็มขัด มีการสุ่มตรวจ เป็นมาตรการที่เพิ่มในปีนี้ ก็ให้ความมั่นใจว่า ในเรื่องของความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะนั้น มีความปลอดภัยสูงสุด
จากข้อมูลการเดินทาง ตลอด 4 วัน มีประชาชนเดินทางที่สถานีหมอชิตประมาณ 616,000 คน อาจจะดูเบาบางเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากทะยอยเดินทางกลับเมื่อวันที่1เมษายนและยังไม่กลับมา คาดว่าขากลับจะมีจำนวนมากกว่า แต่รถเพียงพอแน่นอน
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่ง เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้มอบหมายให้มีการตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะขึ้นชั่วคราว ในสถานีขนส่งผู้โดยสาร ทั้งที่ หมอชิต,เอกมัยและสายใต้ เพื่อจะทำหน้าที่ในเรื่องของการดูแลผู้โดยสาร ทั้งในเรื่องของการเก็บค่าโดยสารเกินอัตรากว่าที่กฎหมายกำหนดพร้อมรับเรื่องร้องเรียนต่างๆไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร หรือในกรณีที่ผู้โดยสารมีปัญหาไม่ได้รับความไม่สะดวก ทางศูนย์ฯนี้จะมีผู้ตรวจการกรมการขนส่งทางบกเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆที่มีการร้องเรียนเข้ามา รวมทั้งได้ประสานกับศูนย์ฯ ในส่วนกลาง ถ้าหากมีข้อมูลที่มีการร้องเรียนในแต่ละพื้นที่ ทางผู้ตรวจการที่อยู่ในศูนย์ก็จะออกไปดำเนินการได้ทันที ซึ่งจะตั้งอยู่ตลอดในช่วงเทศกาลสงกรานต์
สำหรับการร้องเรียนต่างๆตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน- 11 เมษายน มีการดำเนินคดีในหลายเรื่อง อาทิ แท็กซี่ปฎิเสธผู้โดยสาร หรือรถบางคันอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ ทางศูนย์ฯก็เข้าไปดูแลและดำเนินการ อาจจะต้องมีการลงโทษผู้ขับรถนอกจากนั้นมีการประสาน บขส.ในการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ,ตรวจสมุดคู่มือประจำรถในเรื่องของชั่วโมงการทำงาน และจะมีการประสานข้อมูลกับศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารที่อยู่ในส่วนของกรมการขนส่งทางบกด้วย
ในทุกจังหวัด ได้มีการตรวจร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นปภ.ตำรวจ/ตำรวจทางหลวงและตำรวจในพื้นที่ ฯลฯ รวมทั้งมีอาสาสมัคร และหน่วยงานของคมนาคมด้วย ส่วนในบางจุด ก็จะมีการตรวจสารเสพติด ตรวจปัสสาวะ ซึ่งจะตรวจเข้มร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ปปส.ในบางพื้นที่ ที่ได้มีการดำเนินการร่วมกัน นอกจากนั้นก็คือภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปอำนวยความสะดวก ในการเดินทางของพี่น้องประชาชน ทั้งหมดในสถานีขนส่งผู้โดยสาร ทั้ง 121 แห่ง และตั้งตรวจจุดบริการอีก 11 จังหวัด และมีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่คือระบบ GPS ติดตามรถในพื้นที่และติดตามพฤติกรรมผู้ขับรถ ซึ่งมีศูนย์บริหารอยู่ที่กรมการขนส่งทางบก โดยตรวจสอบว่ามีการใช้ความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ในส่วนนี้ ทางศูนย์ฯ ก็จะช่วยติดตามพฤติกรรมการขับรถได้ด้วย
หากพบรถโดยสารสาธารณะ กระทำผิด ไม่ปลอดภัย หรือขับประมาท หวาดเสียว ร้องเรียนได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
ผสข:พนิตา สืบสมุทร