*กกต.หารือรองนายกฯ งบฯทำประชามติ –รูปแบบบัตรลงประชามติ*

11 เมษายน 2559, 16:50น.


การดำเนินขั้นตอนทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ร่วมถึงการสอบถามประชาชนเกี่ยวกับคำถามพ่วง นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวก่อนร่วมประชุม กับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุมวันนี้จะพูดถึงเรื่องงบประมาณ และเรื่องอื่นๆ งบประมาณการดำเนินการจัดทำประชามติเป็นตามที่เสนอไป 2,991ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าการจัดการเลือกตั้งครั้งก่อน โดยหน่วยเลือกตั้งจะมีประมาณ 1แสนกว่าหน่วย ส่วนการลงประชามติครั้งนี้ กกต.คาดว่าน่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายเหมือนกับการเลือกตั้งเมื่อครั้งที่แล้ว



ส่วนประเด็นคำถามพ่วง ที่จะใส่ลงไปในบัตร ประธาน กกต. เปิดเผยว่า รูปแบบบัตรลงประชามติจะแบ่งเป็น 2ส่วน คือ ส่วนบนจะให้เป็นคำถามว่าเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ  ส่วนด้านล่างจะเป็นคำถามพ่วง ซึ่งรายละเอียดของคำถามพ่วงและรายละเอียดของบัตร นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ต้องดูพิจารณาความเหมาะสมอีกที



สภานิติบัญญัติ (สนช.)ได้ข้อสรุปแล้ว ส่วนจะมีการปรับแก้ถ้อยคำในคำถามพ่วงหรือไม่คงต้องให้สนช.พิจารณาก่อน กกต.จะนำไปจัดพิมพ์ ส่วนต้องมีการเผยแพร่ข้อดีข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาแนวทาง เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน



ส่วนการกำหนดบทลงโทษ ประธาน กกต. ระบุว่า  บทกำหนดโทษมีอยู่ใน มาตรา 6ของ พระราชบัญญัติ กกต. ว่าอะไรสามารถทำได้หรือทำไม่ได้ ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าบทลงโทษจะสูงหรือน้อยไป แต่เพื่อไม่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายอย่างในอดีตก็ต้องมีการกำหนดบทลงโทษขึ้นมา โดยการชี้ขาดทุกอย่างต้องให้ศาลยุติธรรมเป็นผู้พิพิจารณาชี้ขาดเท่านั้น ยืนยัน หากรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ กกต. พร้อมจัดการเลือกตั้งทันที



ด้านนายสมชัย ชี้แจงว่า บัตรการออกเสียงประชามติ มี 2ส่วน คือ ส่วนที่เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วงจาก สนช. ซึ่งจะมีสีที่แตกต่างกันเพื่อประชาชนจะสามารถเห็นได้ชัดเจน มีช่องเห็นชอบและไม่เห็นชอบ โดยในวันนี้จะนำให้ที่ประชุมได้พิจารณา โดยบัตรลงคะแนนจะมีขนาดเท่ากับ เอ5 หรือครึ่งหนึ่งของกระดาษ เอ4 เท่ากับบัตรลงคะแนนประชามติในปี 2550 ซึ่งในส่วนของสี ลาย และบัตรแต่ละใบจะมีรหัสเฉพาะที่เป็นความลับเพื่อไม่ให้เกิดการปลอมแปลง ก่อนจะตีพิมพ์ในจำนวน 53 ล้าน ราคาใบละไม่เกิน 1 บาท ซึ่งจะตีพิมพ์เกินกว่าจำนวนที่ระบุไว้ร้อยละ 8 ใบ เพื่อสำรองในระบบการจัดสรร  ทั้งนี้การนับคะแนนของทั้ง 2คำถามจะแยกจากกัน ส่วนการเขียนข้อความหรือ ทำเครื่องหมายอื่นลงไป จะถือเป็นบัตรเสีย แต่หากเสียเพียงคำถามเดียวอีกคำถามก็จะยังนับคะแนน  ซึ่ง กกต.จะมีคู่มือให้กับประชาชนได้ศึกษาว่าบัตรใดเป็นบัตรเสีย นายสมชัย กล่าวถึง คำถามพ่วงของ สนช. และรัฐบาล จะเป็นผู้ตัดสินว่าคำถามเป็นที่สิ้นสุด และจะต้องไม่ซับซ้อนให้เกิดความสับสน ก่อนที่ กกต.จะนำไปจัดพิมพ์บัตรลงคะแนนเสียงประชามติ



ขณะที่การรายงานผลประชามติ นายสมชัย กล่าวว่า  สามารถทราบผลอย่างไม่เป็นทางการได้ภายใน 3 ชั่วโมงภายหลังการปิดหีบ ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ ร้อยละ 95 ของประเทศ และจะรายงานอย่างเป็นทางการภายในเวลา 3 วันหลังการออกเสียงประชามติ ทั้งนี้หากเกิดปัญหาในการลงประชามติถือเป็นเรื่องของบรรยากาศการเลือกตั้งในประเทศเพราะ กกต. ทำได้แค่ให้เกิดความเรียบร้อย ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นคงไม่มีใครสามารถไปรับผิดชอบได้ พร้อมระบุว่า ไม่ทราบ เจ้าหน้าที่จะตกอยู่ในอันตรายเหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมาหรือไม่



ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด 

ข่าวทั้งหมด

X