*รถยนต์ในยุโรปจะติดตั้งระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินในปี 2561*

ภายในเดือนเมษายน 2561 รถยนต์รุ่นใหม่ทั้งหมดที่จะจำหน่ายในกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)จะต้องติดตั้งระบบโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินอัตโนมัติ(ระบบอีคอลล์)โดยสโลวีเนียจะเป็นชาติแรกในกลุ่มอียูที่จะใช้ระบบนี้ เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินของบริษัทผู้พัฒนาระบบอีคอลล์อยู่ระหว่างการทดสอบใช้ระบบอยู่ในสโลวีเนีย คาดว่าระบบอีคอลล์จะสามารถเพิ่มอัตราความเร็วในการรับแจ้งเหตุฉุกเฉินได้สูงถึงร้อยละ 50 ด้านนายบอสต์จัน ทัฟคา หัวหน้าศูนย์รับแจ้งโทรศัพท์ฉุกเฉินของบริษัทอีคอลล์ประจำสโลวีเนียกล่าวว่า ระบบอีคอลล์จะถูกติดตั้งอยู่ในรถยนต์ กรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือพบว่ามีการเปลี่ยนอัตราความเร็วในการวิ่งของรถหรือถุงลมทำงานหรือไม่ ระบบจะส่งข้อมูลถึงศูนย์รับแจ้งเหตุด่วน เช่น ระบุตำแหน่งของรถ ทิศทางที่มุ่งหน้าไป เช่นอยู่บนทางด่วน มีผู้โดยสารกี่คนและใช้เชื้อเพลิงประเภทใด

นอกจากนี้รถรุ่นเก่าก็สามารถจะติดตั้งระบบอีคอลล์เช่นกัน โดยเสียค่าติดตั้งไม่แพงมาก แต่อุปสรรคสำคัญต่อการบังคับติดตั้งระบบอีคอลล์ในขณะนี้คือ รัฐสภาแห่งยุโรปแสดงความเป็นกังวลว่าเรื่องนี้อาจจะเข้าข่ายละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ขับขี่ แต่บริษัทผู้ผลิตระบบอีคอลล์ระบุว่า ข้อมูลจะถูกส่งไปยังศูนย์รับเรื่อง เฉพาะกรณีที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงเท่านั้น ด้านนายมาริจัน ริแม็ค ประธานกลุ่มช่วยเหลือทางเทคนิค ชมรมผู้ใช้รถยนต์ของโครเอเชีย เห็นด้วยกับเรื่องนี้ระบุว่าแนวคิดพื้นฐานคือการช่วยรักษาชีวิตมนุษย์ให้ปลอดภัย คาดว่าระบบอีคอลล์จะช่วยรักษาชีวิตคนใช้รถใช้ถนนในยุโรปให้ปลอดภัยราว 2,000 คนต่อปีและลดผลจากอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุอีกจำนวนมาก

ข้อมูลของกลุ่มอียูบ่งชี้ว่า การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในยุโรปลดลงต่อเนื่องนับแต่ปี 2544 คาดว่าการติดตั้งระบบอีคอลล์ ร่วมกับการปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยอย่างแข็งขันของผู้ใช้รถใช้ถนนจะช่วยลดจำนวนผู้บาดเจ็บและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตามท้องถนนมากยิ่งขึ้น