*ผช.ผอ.ปฎิบัติการเขื่อนสิริกิติ์ ปล่อยน้ำน้อยลง-ลดปล่อยช่วงกลางคืน ให้น้ำพอใช้*

การลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำของกรมชลประทานวันที่ 2 ได้เดินทางมาที่เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่สำคัญของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของประชาชนในพื้นที่ภาคกลาง นายประเสริฐ อินทับ ผู้ช่วยผู้อำนวยการปฏิบัติการ เขื่อนสิริกิติ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำในเขื่อนสิริกิติ์ เหลือประมาณ 1,122 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 17 จากความจุ 9,510 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่า จะมีเพียงพอใช้อีก 4 เดือนข้างหน้านี้ ทันฤดูฝนที่จะมาถึงในช่วงหลังสงกรานต์ ขณะนี้เขื่อนก็มีการบริหารจัดการในเรื่องการปล่อยน้ำ โดยจะปล่อยน้ำวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภค ของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ส่วนกำหนดปล่อยน้ำ เขื่อนจะปล่อยน้ำให้น้อยลงในช่วงเวลากลางคืน และจะปล่อยน้ำให้มากในช่วงเวลาที่มีความจำเป็นต้องใช้พลังงาน เบื้องต้น ก็มีการลงพื้นที่พูดคุยกับทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ทุกวัน ให้ช่วยกันประหยัดน้ำ เพื่อจะได้มีใช้อย่างสม่ำเสมอระหว่างรอฝนตก ขณะนี้ ประชาชนในพื้นที่ก็ลดการใช้น้ำในการทำเกษตรแล้ว พร้อมกับระบุด้วยว่าประชาชนโดยรอบเขื่อน ไม่มีปัญหาลักลอบสูบน้ำหรือแย่งน้ำกัน ขณะเดียวกัน ก็ต้องขอความร่วมมือประชาชนท้ายน้ำ ให้ช่วยกันประหยัดน้ำ เพื่อให้น้ำสามารถไหลไปปรับสมดุลในระบบนิเวศได้

ทั้งนี้ จากรายงานของกรมชลประทาน ระบุว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนอีก 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนภูมิพล ซึ่งแต่เดิมมีความจุ 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันเหลือประมาณ 582 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 6 เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีความจุ 939 ล้านลูกบาศก์เมตร  ปัจจุบันเหลือประมาณ 250  ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 28 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีความจุ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันเหลือ 296 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 31 โดยเขื่อนทั้งหมดยังไม่มีน้ำเข้าขณะนี้ นอกจากนี้ในวันนี้กรมชลประทาน จะมีการลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำคลองตรอน การพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำสาขาของแม่น้ำน่าน พร้อมกับรับฟังการบรรยายสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำคลองตรอน จากคุณสมหวัง ปานสุขสาร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุตรดิตถ์ด้วย

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข