*เอเชียคือตลาดใหญ่ฟอนเซกาฯ/ยอดใช้ไฟทำลายสถิติ/เสนอเขมรเปิดทางขึ้นพระวิหารฝั่งไทย*

07 เมษายน 2559, 11:45น.


ข่าวเที่ยงครึ่ง



+++เครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนนานาชาติ ( ไอซีไอเจ ) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรร่วมสืบสวนและสังเคราะห์ข้อมูลเอกสารการทำธุรกรรมลับตลอดเกือบ 40 ปีจำนวน 11.5 ล้านฉบับของมอสแซค ฟอนเซกา บริษัทกฎหมายในปานามา รานงานเพิ่มเติมเมื่อวันพุธว่า ร้อยละ 29 ของบริษัทนอกอาณาเขตภายใต้การดูแลของมอสแซค ฟอนเซกาที่มีอยู่มากกว่า 214,000 แห่งนั้น มาจากการหาลูกค้าโดยสำนักงานของมอสแซค ฟอนเซกาในฮ่องกงและจีน จึงสามารถอนุมานได้ว่า เอเชียคือตลาดใหญ่ที่สุดของบริษัท ข้อมูลจากเอกสารลับปานามาระบุด้วยว่า มอสแซค ฟอนเซกา มีสาขาในแผ่นดินใหญ่รวมถึงฮ่องกง 8 แห่ง มากที่สุดในทุกประเทศที่ตั้งสำนักงาน ส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองเศรษฐกิจ เช่น เมืองเซินเจิ้นและนครเซี่ยงไฮ้ โดยสมาชิกอย่างน้อย 8 คน จากทั้งหมด 25 คนของคณะกรรมการประจำกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ( โปลิตบูโร ) ชุดปัจจุบัน ใช้บริการของมอสแซค ฟอนเซกา ในการจัดตั้งบริษัทนอกอาณาเขตสำหรับเป็นแหล่งพักภาษี



ไอซีไอเจย้ำว่า การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทนอกอาณาเขตไม่ผิดกฎหมาย แต่กลุ่มคนมีฐานะมักใช้ช่องทางดังกล่าวเป็นแหล่งฟอกเงินเพื่อหลบเลี่ยงภาษีในประเทศของตัวเอง ทั้งนี้ ไอซีไอเจและหนังสือพิมพ์ "ซุดดอยเชอร์" ของเยอรมนี รายงานว่าพี่เขยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และสมาชิกในครอบครัวของสมาชิกโปลิตบูโรอย่างน้อย 2 คน คือนายจาง เกาลี่ รองนายกรัฐมนตรี และนายหลิว หยุนซาน มีรายชื่ออยู่ในบริษัทนอกอาณาเขตที่อยู่ในความดูแลของมอสแซค ฟอนเซกา นอกจากนี้ บุตรสาวของนายหลี่ เผิง อดีตนายกรัฐมนตรี และแจ็คกี ชาน หรือ "เฉินหลง" นักแสดงชื่อดัง มีชื่ออยู่ในรายงานเช่นกัน



+++ชุดปฏิบัติการ ม.พัน.29 รอ.เขตพระโขนง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พระโขนง บุกเข้าทำการจับกุมบ่อนการพนันประเภทไฮโล บริเวณซอยพึ่งมี 50 นิรันดร์คอนโด  มีนายวิทยา โพธิ์มัจฉา เป็นเจ้าของบ้าน พบผู้กระทำความผิดฐานเล่นการพนัน รวม 38 คนเป็น ผู้ชาย 26 นาย ผู้หญิง 12 เจ้าหน้าได้ทำการรวบรวมหลักฐานของกลางแผ่นกระดานไฮโล 1 แผ่น ถ้วยไฮโล 1 ชุด ลูกไฮโล 10 ชุดเงินสด 2050 บาท ไม้เขี่ยเงิน 9 อัน ตะกร้าใส่เงิน 2 อัน ทีวี 1 เครื่อง กล้องวงจรปิด 1 ตัว กล้องตรวจแม่เหล็ก 1 ตัว จึงได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้ทางพนักงานสอบสวน ดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป



+++ยอดใช้ไฟทำลายสถิติ นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2559 เวลา 20.21 น. ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือพีก (Peak) อยู่ที่ 27,639.3 เมกะวัตต์ อุณหภูมิ 31.1 องศาเซลเซียส ทำลายตัวเลขการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของปี 2558 (27,345.8 เมกะวัตต์) เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2558 สาเหตุสำคัญมาจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวทั่วประเทศ สำหรับสาเหตุที่การใช้ไฟฟ้าสูงสุดครั้งนี้เกิดในวันหยุด ช่วงกลางคืน เนื่องจากเป็นลักษณะการใช้ไฟฟ้าของวันหยุดที่มาจากความต้องการไฟฟ้าของภาคบ้านอยู่อาศัยและบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาก็มีการทำลายตัวเลขพีกในช่วงวันหยุดเช่นกัน คาดว่าปีนี้จะมีการทำลายตัวเลขพีกอีกหลายครั้ง ซึ่งในที่สุดแล้วพีกสูงสุดของปีมักจะเกิดในช่วงบ่ายของวันทำงานปกติ จากการใช้ไฟฟ้าทั้งภาคอุตสาหกรรม บริการ และบ้านอยู่อาศัย



+++ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายธวัช สุระบาล รอง ผวจ.ราชบุรี รักษาราชการแทน ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตชด.และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณใกล้กับปราสาทพระวิหารของประเทศกัมพูชา นายธวัชได้เดินสำรวจบริเวณผามออีแดง และได้ไปตรวจดูภูมิประเทศที่อยู่ใกล้กับปราสาทพระวิหารพร้อมทั้งใช้กล้องส่องทางไกลดูสภาพพื้นที่โดยรอบเขาพระวิหารด้วย ซึ่งปรากฏว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทยพากันมาชมความสวยงามของผามออีแดงกันอย่างคึกคัก และได้ไปตรวจดูสภาพของภาพแกะสลักนูนต่ำอายุกว่า 1,500 ปี



+++โดยขณะนี้ ไทยพยายามที่จะผลักดันเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชาให้ความเห็นชอบในการเปิดประตูขึ้นไปสู่ปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นส่วนที่ทาง จ.ศรีสะเกษ ได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และได้มีการประชุมกันเพื่อที่จะพิจารณาว่า การที่จะเปิดประตูตรงนี้ เรามีการจำกัดระยะเวลาช่วงไหนถึงช่วงไหน แล้วทางฝ่ายกัมพูชาจะต้องเตรียมอย่างไรบ้าง และจะมีเงื่อนไขในการเจรจาซึ่งจะต้องเป็นการเจรจากันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของไทยกับกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาคิดว่าสถานการณ์บรรยากาศที่มีความเป็นมิตรระหว่างไทยกับกัมพูชามีสูงมาก ก็มีโอกาสเป็นไปได้ สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะเห็นได้ว่า เราเปิดประตูสู่อาเซียนแล้ว หากเปิดประตูตรงนี้ได้ ก็จะทำให้พี่น้องนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเที่ยว หากนักท่องเที่ยวเข้ามาทางฝั่งไทย ฝ่ายไทยก็จะได้ประโยชน์ หากเข้าไปฝั่งกัมพูชาทางฝ่ายกัมพูชาก็จะได้ประโยชน์ ซึ่งจะเป็นการสมประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนทางด้านความปลอดภัยนั้น ก็จะเป็นกำลังเจ้าหน้าที่ของไทยและกัมพูชาที่จะช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวให้ความสะดวกกับนักท่องเที่ยว 

ข่าวทั้งหมด

X