*อธิบดีกรมการขนส่งฯชี้GPSติดรถโดยสารสาธารณะยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน*

07 เมษายน 2559, 11:08น.


หลังกรมการขนส่งทางบก นำระบบ GPSมาใช้ติดตาม การเดินทางของรถโดยสารสาธารณะ นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การติดตาม จะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านการทำงานของศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบGPS ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะเป็นศูนย์ รับข้อมูลจากรถที่ติดตั้ง GPSทุกคันแบบเรียลไทม์ และมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวของรถในระบบตลอด24ชั่วโมง ทั้งในส่วนกลางและศูนย์ภูมิภาคใน11จังหวัด14แห่ง ซึ่งข้อมูลของรถจะปรากฎในระบบศูนย์ทันทีเมื่อมีการใช้รถและทันทีที่เกิดการกระทำผิด ระบบจะแจ้งเตือนพร้อมระบุข้อมูล เช่น การใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด การขับรถเกินชั่วโมงทำงาน ไม่เเสดงตัวคนขับ และการถูกร้องเรียนผ่านแอพพลิเคชั่น"DLT GPS" ที่เปิดให้ผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะและประชาชนทั่วไป สามารถค้นหาตำแหน่งของรถและร้องเรียนหรือแจ้งเหตุมายังศูนย์ฯได้ตลอด24ชั่วโมง





นับเป็นการใช้งานผ่านทางสมาร์ทโฟนหรือแทบเลตบนระบบปฏิบัติการAndroid  โดยผู้ใช้บริการสามารถระบุเพียง หมายเลขทะเบียนรถ ระบบจะแสดงตำแหน่งพิกัดของรถ ความเร็วที่ใช้ และรายละเอียดของพนักงานขับรถ พร้อมระบบร้องเรียนและช่องทางรับแจ้งเหตุ เช่น กรณีรถโดยสารเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียระหว่างทาง โดยแอพพลิเคชั่นจะรายงานเหตุการณ์พร้อมแสดงพิกัดของรถเข้าสู่ฐานข้อมูลของศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบGPSแบบเรียลไทม์ ซึ่งข้อมูลที่ได้จากความร่วมมือของผู้ประกอบการเป็นส่วนสำคัญในการติดตามรถโดยสารสาธารณะ และรถบรรทุกได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถนำข้อมูลมาพิจารณาแนวทางการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนของประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันมีรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกติดตั้ง GPS แล้วจำนวน 46,957 คัน แบ่งเป็นรถโดยสารประจำทาง 3,232 คัน รถโดยสารไม่ประจำทาง 4,034 คัน รถบรรทุกไม่ประจำทาง 19,093 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคล 12,240 คัน และรถอื่นๆ 8,358 คัน





อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้ขอให้ผู้ประกอบการและเจ้าของรถเร่งทยอยนำรถเก่าที่ติดตั้ง GPS ไว้ก่อนแล้วเข้ารับการตรวจสอบการเชื่อมโยงข้อมูลหรือรถที่ไม่มีGPS ให้ติดตั้งให้แล้วเสร็จตามเงื่อนไข ซึ่งปัจจุบันมีGPS ที่ผ่านการรับรองแล้ว จำนวน63 รุ่น จากผู้ให้บริการจำนวน38 บริษัท สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก หรือสอบถามเพิ่มเติมที่สำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก โทร.02-217-8605

ข่าวทั้งหมด

X