ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.
+++หลังสำนักข่าวเอพีได้รายงานว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)จำกัดอำนาจของทหาร พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. รู้สึกไม่สบายใจกับความเห็นดังกล่าว เพราะการแสดงความเห็นอย่างนี้ไม่ใช่เป็นการแสดงความเห็นครั้งแรก ทั้งๆที่ได้มีชี้แจงอธิบายแล้ว หลายครั้ง เหมือนพยายามไม่เข้าใจว่าข้อเท็จจริงคืออะไร และเรียกร้องในสิ่งที่สวนทางกับความเป็นจริง เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศไทย ขณะนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาปกติ การออกคำสั่งของคสช. แต่ละครั้ง มีเป้าหมายเพื่อบูรณาการงานให้รวดเร็วขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงอำนาจศาลโดยทหาร เพราะหากมีการกระทำผิดเกิดขึ้น ก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อสู้คดี ทั้งศาลพลเรือน และศาลทหาร โดยเป็นอำนาจของศาลที่จะใช้กฎหมายปกติเป็นหลัก ไม่ว่าจะตัดสินความถูกผิดหรือยึดทรัพย์ก็ตาม
+++นายกรัฐมนตรีอยากให้โฆษกกต. สหรัฐฯ หรือแม้แต่สื่อมวลชน เข้าใจว่า นักโทษที่หลบหนีคดี กลุ่มนปช. กลุ่มนักศึกษา กลุ่มต่อต้านสถาบัน ทุกคนรู้ดีว่าตัวเองทำผิดกฎหมาย แต่อ้างเรื่องสิทธิมนุษยชนเพื่อให้ดูดี ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับกฎหมาย การกระทำผิดทุกกรณีมีหลักฐานชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการใช้อาวุธสงคราม หรือเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งล้วนแต่เชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองทั้งสิ้น จึงอยากถามกลับไปว่าในประเทศของท่าน ทุกคนมีเสรีภาพที่จะกระทำการที่ผิดกฎหมายเช่นนี้ได้ใช่หรือไม่ รวมทั้งขอให้สื่อมวลชนช่วยกันสื่อสารออกไปบ้างว่า ให้นักโทษหนีคดีกลับมาต่อสู้คดีในประเทศ ไม่นำเสนอแต่เพียงเรื่องข้อเรียกร้องของกลุ่มการเมือง นปช. หรือล็อบบี้ยิสต์ เพราะหากยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ แม้จะอ้างว่าตัวเองทำถูกต้อง 1 คดี แต่คดีอื่นๆ อีกเป็นสิบ จะว่าอย่างไร และไม่ใช้ประเทศอื่นเป็นเวทีให้ร้ายบ้านเกิดเมืองนอนอย่างไม่ใยดี
+++ร่างรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีทางออกอย่างไรหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ เพราะจะทำให้เกิดอคติเผื่อเลือกขึ้นมา แต่ต้องหาทางทำให้ประชาชนรู้โดยเร็ว เพราะหลังวันที่ 7 ส.ค. หากประชามติไม่ผ่าน จะต้องแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวว่าจะใช้วิธีใด ซึ่งจะชัดเจนว่าจะเอารัฐธรรมนูญฉบับใดมาใช้ หรือเขียนใหม่โดยไม่ใช้ฉบับใด หรือใช้หลายฉบับเป็นฐาน สำหรับเรื่องคำถามพ่วงประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้น หากสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติให้มี จะใช้บัตรลงคะแนนใบเดียวกัน และที่คุยกันไว้จะใช้คำถามว่ารับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญสีหนึ่ง คำถามพ่วงอีกสีหนึ่ง เพื่อป้องกันประชาชนสับสน ซึ่งในวันนี้สนช.จะพิจารณาคำถามพ่วง พร้อมประชุมวาระ 2และ 3ร่างพรบ.ประชามติ
+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า กกต.ไม่มีการจัดเวทีดีเบตร่างรัฐธรรมนูญในสถานที่อื่น ยกเว้นการจัดในสถานีโทรทัศน์ที่จะเปิดให้ผู้ที่มีความเห็นแตกต่างกัน 2 ฝ่าย มาแสดงความเห็น 10 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาเพราะจัดในสถานีโทรทัศน์ ขณะที่การเผยแพร่เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของ กรธ.ที่จะดำเนินการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งสององค์กรจะต้องเข้าไปดูแล
+++หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จ.พิษณุโลก ระดมกำลังไล่ล่านายสน หุมเพียง อายุ 45 ปี คนร้ายที่ฆ่าข่มขืนด.ญ. อายุ 14 ปี ที่ถูกศาลแขวงนครไทย ออกหมายจับ และเป็นเพื่อนบ้านด.ญ. ที่เสียชีวิตในบ้านพัก อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ล่าสุด เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้แล้วหลังพบว่านายสน แอบไปซุ่มอยู่ ในไร่ข้าวโพดของพ่อเด็กหญิงที่เสียชีวิต ห่างจากบ้านพักไม่ไกลนัก เบื้องต้น ด.ญ.ขัดขืนต่อสู้จึงถูกเชือกรัดคอเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาที่ สภ.นครไทย เพื่อสวบสวนอย่างละเอียด ในความผิดข้อหาข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข่มขืนกระทำชำเรา นายสน ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่ารัดคอผู้เสียชีวิตจริง วันเกิดเหตุได้เข้าไปขอยืมที่ชาร์ตแบตเตอรี่ในบ้านพักผู้เสียชีวิต และพบผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในบ้าน กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ ผู้เสียชีวิตบอกให้ไปหยิบได้เลย แต่ระหว่างนั้น นายสนสังเกตเห็นผู้เสียชีวิตนุ่งกางเกงขาสั้น จึงเกิดอารมณ์ จึงได้เดินออกไปหยิบเชือกจากนอกบ้านและเข้ามารัดคอผู้เสียชีวิตและล่วงละเมิดทางเพศ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้แพทย์มาตรวจร่างกายของผู้ต้องหา และเก็บดีเอ็นเอจากตัวผู้ต้องหา จากกระพุ้งแก้ม เส้นผม เล็บ เพื่อเป็นหลักฐานมัดตัว
+++ความคลี่คลายคดีพบศพชาวต่างชาติถูกยัดกระเป๋า ทิ้งในคลองโอ่งอ่าง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ได้รับรายงานจากทีมสืบสวนแล้วในทุกส่วนต่างมีข้อมูลที่ตรงกันและสามารถพุ่งเป้าเป็นรายบุคคลได้แล้ว 2-3 ราย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพิสูจน์ทราบว่าบุคคลดังกล่าวยังอยู่ในประเทศหรือไม่ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในแต่ละจุดมีความเชื่อมโยงกัน มีการนำภาพเปรียบเทียบแต่ไม่ขอเปิดเผยถึงรายละเอียด ทั้งนี้จุดซื้อกระเป๋าและจุดทิ้งศพคาดว่าอยู่ในละแวกเดียวกัน
+++ส่วนการตรวจสอบที่ร้านบางกอกร้านค้ากระเป๋าเดินทางและกระเป๋าแฟชั่น จากการสอบถามทางเจ้าของร้านให้การว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 1 เม.ย. มีชาย 1 ราย สูงประมาณ 170 ซ.ม. อายุประมาณ 40 ปี ผิวคล้ำ พูดภาษาปันจาวี ซื้อกระเป๋ายี่ห้อโบเดี่ยมไปจำนวน 2 ใบ ราคาใบละ 350 บาท ซึ่งจะเชิญเจ้าของร้านไปสเกตช์ภาพใบหน้าคนร้ายในวันที่ 7 เม.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. ที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อมาจึงไปตรวจสอบเกสต์เฮาส์ซึ่งอยู่ถัดไป 1 ซอย และห่างจากจุดที่พบศพราว 850 เมตร ก่อนเดินเลียบคลองโอ่งอ่างเพื่อหาจุดที่คาดว่าคนร้ายจะทิ้งกระเป๋า ตั้งแต่บริเวณสะพานข้ามคลองสะพานหัน จนถึงสะพานดำรงสถิต ซึ่งตรวจพบว่าระดับน้ำบริเวณช่วงสะพานดำรงสถิต มีระดับลึกกว่า 2 เมตร คาดว่าคนร้ายน่าจะทิ้งในละแวกดังกล่าว ส่วนโรงแรมที่คาดว่าคนร้ายเข้าพักมีโรงแรมบูรพาและโรงแรมมีราม่า ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสะพานดำรงสถิตและกับคลองโอ่งอ่าง
+++ประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อนักแสดงหนุ่ม "ภูริ หิรัญพฤกษ์" โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีมีผู้มาแอบอ้างเป็นกรรมสิทธิ์ที่ดินบนเกาะนาคาน้อย จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ในการครอบครองของตระกูลหิรัญพฤกษ์มานานกว่า 40 ปี ก่อนหน้านี้ นายชาญวิทย์ กิจเลิศสิริวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้ตรวจสอบการได้มาซึ่งเอกสาร น.ส.3ก. เลขที่ 2565 , 2556 และ 1462 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต รวมถึงชี้แจงเกี่ยวกับการถือครองที่ดินและ น.ส.3ก. เลขที่ 3977 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ของบริษัทภูเขาสามลูกฯ ที่มีการกล่าวหาว่า ดำเนินการ น.ส.3ก. มิชอบด้วยกฎหมายา ล่าสุด ดีเอสไอเตรียมเข้าหารือกับ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำเรื่องเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ปกป้องพื้นที่ป่าบนเกาะนาคาน้อย เนื่องจากเกรงว่าหากใช้กฎหมายปกติจะไม่สามารถดำเนินได้ทันการ ทั้งนี้ ดีเอสไอยังไม่ได้เสนอให้มีการเพิกถอนต่อกรมที่ดิน เพราะอยู่ระหว่างรอการเสนอเข้าพิจารณาเป็นคดีพิเศษกับคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)
+++ห้ามฝากร้าน กรมสรรพากรส่องไอจีดารา เช็กการโฆษณาสินค้ากับการเสียภาษี นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรมีการตรวจสอบกรณีที่มีดารา นักร้อง หรือผู้มีชื่อเสียงรับโฆษณาสินค้าทางอิน สตาแกรมและช่องทางออนไลน์โดยตลอด ซึ่งถ้ามีการรับเงินจากผู้จ้าง กลุ่มดาราดังกล่าวต้องเสียภาษี ที่ผ่านมาพบว่าการว่าจ้างดังกล่าวมีประเภทที่เป็นการว่าจ้างแบบไม่มีหลักฐานคือจ่ายเงินสด โดยไม่มีหลักฐานในการจ่ายเงิน ซึ่งยอมรับว่าตรวจสอบยาก ขณะนี้กรมกำลังแก้ไขกฎหมายเพื่อขอข้อมูลบุคคลที่ 3 กับธนาคาร เพื่อว่าต่อไปถ้ามีการจ่ายเงิน หรือมีการนำฝากเงินสด หรือเช็คฝากไว้ที่ธนาคาร ระบบจะแจ้งเตือนมายังกรมสรรพากรทันที และถ้าพบเงินที่ผิดปกติ กรมสามารถเรียกเจ้าของเงินมาชี้แจงได้ว่าได้รับเงินดังกล่าวมาจากไหน เพื่อดูว่ามีการเสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งตรงนี้จะเป็นแนวทางหนึ่งในการเรียกเก็บภาษีจากกลุ่มดารา นักร้อง ที่มีรายได้สูงๆ งคาดว่าทั้งกฎหมายและระบบไอทีที่ปรับปรุงจะเสร็จในปี 2560 น่าจะทำให้รายได้ของกรมปรับเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท