นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คนที่หนึ่ง เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.)ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคำถามพ่วงประชามติ และมีมติให้ส่งคำถามพ่วงประชามติ 1 คำถามให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อถามประชาชน โดยนำข้อเสนอของสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) และข้อเสนอของคณะกรรมาธิการของสนช.และสมาชิกที่ส่งคำถามเข้ามาขณะนี้อยู่ระหว่างการขัดเกลาถ้อยคำในคำถามก่อนส่งให้ที่ประชุมสนช.ในวันที่ 7เมษายนนี้เห็นชอบและส่งให้กกต.ในวันเดียวกัน โดยเป็นคำถามที่จะให้ประชาชนตัดสินใจในกลไกสำคัญที่จะต้องมีหรือไม่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และควรมีระยะเวลานานเท่าใด ซึ่งเป็นคำถามในหลักการที่ให้รัฐสภามีอำนาจในการกำหนดกลไกบางอย่างในช่วงเปลี่ยนผ่านหรือไม่
นอกจากนี้ที่ประชุมวิปสนช.ยังพิจารณาร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการฯ และจะนำกลับเข้าพิจารณาในวาระ 2-3 ในวันที่ 7 เมษายนนี้เช่นกัน โดยปรับแก้ในหลายประเด็น โดยเฉพาะบทลงโทษที่กำหนดทั้งจำทั้งปรับ“สำหรับผู้ที่จูงใจก่อให้เกิดความวุ่นวายในการออกเสียงประชามติ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนหรือต่อต้าน แยกเป็นความผิดเป็นแบบคนเดียวและความผิดแบบเกิน 5 คน โดยหากทำผิดคนเพียง จะถูกปรับไม่เกิน 200,000 บาท แต่หากเป็นการทำผิดเกิน 5 คน จะมีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และอาจถูกศาลตัดสินลงโทษให้เว้นวรรคทางการเมือง 5-10 ปีด้วย
แฟ้มภาพ