สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศแห่งกรุงสต็อกโฮล์ม(เอสไอพีอาร์ไอ)ของสวีเดนระบุในรายงานประจำปี 2558ในวันนี้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดทั่วโลกส่งผลให้งบค่าใช้จ่ายด้านการทหารเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อปีก่อน นับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 ปีหลังลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปีก่อนงบประมาณด้านการทหารทั่วโลกรวมทั้งหมด 1.67 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มร้อยละ 1 จากปี 2557 ระบุว่าเป็นผลพวงจากการจัดงบประมาณการทหารเพิ่มขึ้นในยุโรปตะวันออก เอเชียและตะวันออกกลาง
เอสไอพีอาร์ไอตั้งข้อสังเกตุว่า ขณะที่งบด้านการทหารในยุโรปตะวันตกเมื่อปีก่อนลดในระดับทรงตัวเมื่อเทียบตัวเลขปี 2557 สำหรับสหรัฐฯยังเป็นประเทศที่ใช้งบประมาณของกองทัพสูงมากเมื่อปีก่อนคือ 5 แสน 9 หมื่น 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดร้อยละ 2.4 จากตัวเลขปี 2557 นับว่าลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ตั้งข้อสังเกตุว่าสหรัฐฯจัดทำงบฉุกเฉินเพิ่มเติมสำหรับปฏิบัติการต่างแดน โดยเฉพาะการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) รองลงมาคือจีน ใช้งบการทหารเมื่อปีก่อนรวมทั้งสิ้น 2 แสน 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อันดับสามคือ ซาอุดิอาระเบีย 8 หมื่น 7 พัน 2 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนรัสเซียอยู่ในลำดับ 4 คือ 6 หมื่น 6 พัน 4 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับในระยะ 10 ปีตั้งแต่ปี 2549-2558 งบประมาณด้านการทหารของสหรัฐฯลดร้อยละ 4 ขณะที่งบด้านการทหารของจีนเพิ่มร้อยละ 132 ขณะที่งบด้านการทหารของซาอุดิอาระเบียและรัสเซียเพิ่มร้อยละ 97 และร้อยละ 91 ตามลำดับ ส่วนฝรั่งเศส ซึ่งมีงบประมาณด้านการทหารลำดับที่ 5 เมื่อปี 2557 ร่วงไปอยู่ลำดับ 7 ตามหลังอังกฤษและอินเดียเมื่อปีที่แล้ว ส่วนในเอเชีย งบด้านการทหารของอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่นและเวียดนาม เพิ่มขึ้นเมื่อปีก่อน สะท้อนถึงความตึงเครียดเรื่องอาณาเขตกับจีนและเรื่องการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ/16.50 น.