แรงงานญี่ปุ่นยื่นขอค่าชดเชยเนื่องจากการทำงานโหดเกินไปมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการเรียกร้องเงินค่าชดเชยการเสียชีวิตเนื่องจากการทำงานหนักสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ภาวะนี้ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า กาโรชิ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่สัมพันธ์กับผลกระทบที่เกิดจากการทำงานในกลุ่มมนุษย์เงินเดือน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มพนักงานผู้หญิงและผู้ที่ยังมีอายุน้อย ตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา ความต้องการด้านแรงงานในญี่ปุ่นเพิ่มสูงสุด ด้วยสัดส่วนงานที่มากกว่าผู้ยื่นใบสมัครงาน 1.28 ต่อ 1 และทำให้นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น พยายามหาวิธีการส่งเสริมให้พลเมืองเข้าสู่ภาคการทำงาน เพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากจำนวนประชากรที่ลดลง แต่ความหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมายแรงงานในธุรกิจบางประเภทกลับส่งผลให้มีการเรียกร้องเงินชดเชยเพิ่มขึ้นถึง 1,456 รายในรอบปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่อยู่ในภาคสาธารณสุข สวัสดิการสังคม การขนส่งสินค้าและการก่อสร้าง ซึ่งกำลังประสบปัญหาการขาดแรงงาน

นายฮิโรชิ กาวาฮิโตะ เลขาธิการสภาที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเพื่อช่วยเหลือเหยื่อจากการทำงานของญี่ปุ่นเผยว่า ตัวเลขที่แท้จริงของพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการทำงานมีมากกว่าที่มีการเรียกร้องค่าชดเชยถึง 10 เท่า แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นพยายามแก้ปัญหา แต่ยังไม่บรรลุผล ทนายความคนหนึ่งระบุว่า ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่เขาได้รับมอบหมายจากพนักงานหรือครอบครัวให้ดำเนินการฟ้องร้องนายจ้างให้จ่ายค่าชดเชยการเสียชีวิต เนื่องจากการทำงานที่หนัก เครียด และกดดัน พบว่าร้อยละ 95 เป็นกลุ่มชายวัยกลางคนที่ทำงานในสำนักงาน แต่ปัจจุบัน เริ่มมีพนักงานหญิงที่ยื่นเรื่องฟ้องนายจ้างแล้วคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นไม่มีกฎหมายจำกัดเวลาในการทำงาน ขณะที่กระทรวงแรงงานญี่ปุ่นระบุเงื่อนไขความเดือดร้อนจากการทำงานเป็น 2 ประเภท คือ ผู้ที่เสียชีวิตจากอาการหลอดเลือดหัวใจทำงานผิดปกติ อันเนื่องมาจากการทำงานหนัก และการฆ่าตัวตายเนื่องจากภาวะความเครียดจากการทำงาน

**14.02F174**

japantimes.co.jp