*คนร้ายจี้เครื่องบินอียิปต์ให้การวกวน/ไอเอ็มเอฟประเมินศก.ไทยดีขึ้น/คลังชี้แจงม.ภาษีกระตุ้นศก.*

29 มีนาคม 2559, 20:09น.


+++ความคืบหน้าเหตุนายเซอิฟ เอลดิน มุสตาฟา คนร้ายที่ก่อเหตุจี้เครื่องบินแอร์บัส เอ 320 ของสายการบินอียิปต์แอร์ เที่ยวบินเอ็มเอส 181 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 81 คน ขณะบินจากเมืองอเล็กซานเดรียทางภาคเหนือไปยังกรุงไคโรทางภาคกลางของอียิปต์ ให้ไปลงจอดที่สนามบินเมืองลาร์นากาทางภาคใต้ของไซปรัส สถานการณ์ล่าสุดสายการบินอียิปต์แอร์ รายงานว่า นายมุสตาฟา ยังไม่ยอมปล่อยคนบนเครื่องอีก 9 คน รวมถึงผู้โดยสารต่างชาติ 4 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังปิดสนามบินอยู่ การเจรจายังคงดำเนินอยู่ โดยคนร้ายยังอยู่บนเครื่องบิน ภาพล่าสุด มีผู้โดยสารคนหนึ่งกระโดดจากหน้าต่างห้องนักบินลงมาด้านล่าง เจ้าหน้าที่กันผู้สื่อข่าวให้ออกจากเครื่องบินในระยะ 500 เมตร เพื่อเฝ้าระวัง เพราะยังไม่ชัดเจนว่าจะมีระเบิดบนเครื่องบินหรือไม่ เนื่องจาก ก่อนที่จะจี้เครื่องบินคนร้ายบอกว่ามีระเบิด  



+++ส่วนการรักษาความปลอดภัยมีหน่วยแม่นปืนดูแลความปลอดภัยรอบๆ     



+++18.49 น.ตามเวลาในไทย กระทรวงการต่างประเทศไซปรัส รายงานทางทวิตเตอร์ สถานการณ์ยุติลงแล้ว สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว สามารถช่วยเหลือตัวประกันได้อย่างปลอดภัย โดยคนร้ายชูมือยอมมอบตัว นายกรัฐมนตรีอียิปต์ สอบปากคำคนร้ายเพื่อดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ในเบื้องต้น ระบุว่า คนร้ายยังให้การสับสนวกวน บางช่วงบอกว่าจะขอพบเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป บางทีการสอบปากคำระบุว่า คนร้ายจะขอไปลงที่สนามบินอื่นที่ไม่ใช่สนามบินไซปรัส จึงต้องสอบปากคำให้ชัดเจน



+++ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซีของอียิปต์ได้คุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีนิคอส อนาสตาเซียเดสของไซปรัส เกี่ยวกับเหตุจี้เครื่องบินอียิปต์แอร์ไปลงที่เมืองลาร์นากา ในไซปรัส ประธานาธิบดีอนาสตาเซียเดส กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหตุก่อการร้าย



+++สอดคล้องกับรัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษว่าสลัดอากาศรายนี้ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย แต่เป็นคนสติไม่สมประกอบ ก่อนหน้านี้  คนร้ายขอพบภริยาชาวไซปรัสที่หย่าร้างกันและเธอกำลังเดินทางไปยังสนามบิน เธอพักอยู่ในหมู่บ้านหนึ่ง ไม่ไกลจากสนามบินดังกล่าว



+++ด้านนายโฮสนี ฮัสซาน ผู้อำนวยการสนามบินเมืองอเล็กซานเดียทางภาคเหนือของอียิปต์ ระบุว่ามีผู้โดยสารต่างชาติบนเครื่อง 26 คน รวมถึงชาวอเมริกัน 8 คน ชาวอังกฤษ 4 คน ชาวดัตช์ 4 คน ชาวเบลเยียม 2 คน ชาวกรีซ 2 คน ชาวฝรั่งเศส 1 คน ชาวอิตาลี 1 คน และชาวซีเรีย 1 คน ส่วนชาวต่างชาติอีก 3 คนไม่ทราบสัญชาติ



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ย้าย 4 ผู้ว่าราชการจังหวัดไปทำงานที่สํานักนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย  นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก  นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และ นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมแต่งตั้งนายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ  นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายวิทูรัช ศรีนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ตรวจราชการกระทรวง กระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และให้นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ พ้นจากตําแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง กระทรวงคมนาคม และให้ดํารงตําแหน่ง อธิบดีกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม



+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ถือฤกษ์ 13.39 น. แถลงรายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญพร้อมส่งมอบให้รัฐบาล เตรียมจัดทำประชามติ ประธาน กรธ. กล่าวว่า จากนี้ต่อไป กรธ. จะทำคำชี้แจงเนื้อหาสรุปเป็นเล่มเพื่อส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ไปแจกจ่ายประชาชนอย่างทั่วถึง ภายใน 15 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวฯ และระหว่างนี้จนถึงก่อนถึงวันที่ 7 ส.ค. นี้ กรธ.ก็จะเริ่มทยอยออกไปชี้แจงรายละเอียดสำคัญให้ประชาชนทราบเพื่อตัดสินใจลงประชามติ โดยกรธ.จะร่วมมือกับหน่วยงานราชการ ทุกกระทรวง ทบวง กรมและกกต. ในการชี้แจง



+++นายมีชัย ระบุว่า ได้รับการประสานงานเบื้องต้นจาก กมธ.วิสามัญ พิจารณาร่างพ.ร.บ. การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ว่า ยอมปรับให้ กรธ.สามารถเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเตรียมพร้อมการทำประชามติได้แล้ว ทั้งนี้ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ..... ของกรธ. ฉบับก่อนลงประชามติ มีทั้งสิ้น 279 มาตรา มีจำนวน 105 หน้า แบ่งเป็น16 หมวด คือ 1.บททั่วไป 2. พระมหากษัตริย์ 3.สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย 4. หน้าที่ของปวงชนชาวไทย 5. หน้าที่ของรัฐ 6. แนวนโยบายแห่งรัฐ 7.รัฐสภา 8.ครม. 9.การขัดกันแห่งผลประโยชน์ 10.ศาล 11.ศาลรัฐธรรมนูญ 12.องค์กรอิสระ13.องค์กรอัยการ 14. การปกครองท้องถิ่น 15. การแก้ไขเพิ่มรัฐธรรมนูญ 16.การปฏิรูปประเทศ และบทเฉพาะกาล โดยประชาชนที่สนใจสามารถดาวโหลดได้ที่นี่เว็บไซต์รัฐสภา

+++กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)  ประเมินเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป คาดปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 3 และปี2560 ขยายตัวร้อยละ 3.2 จากปีที่แล้วขยายตัวร้อยละ 2.8 ความเชื่อมั่นปรับดีขึ้นและราคาพลังงานอยู่ในระดับต่ำมีส่วนช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน รวมทั้งการลงทุนภาครัฐเป็นแรงส่งทางเศรษฐกิจที่สำคัญ



+++การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,394.78 จุด และดัชนีปรับลงทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,386.29 จุด ปิดตลาดบวก 3.84 จุด มูลค่าซื้อขาย 35,656.37 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยได้แรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากที่ได้มีการปรับฐานไปพอควร โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มแบงก์  ส่วนการลงทุนจากต่างชาติเชื่อว่ายังรอดูถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ก่อน ตลาดฯช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรชัดเจน



+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ลดลง 30.84 จุด 17,103.53จุด ฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 20.69 จุด 20,366.30จุด



+++นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบต่ออายุมาตรการภาษีเพื่อการท่องเที่ยว-สัมมนาภายในประเทศและช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยว ออกไปอีก 1 ปี โดยสามารถนำค่าทัวร์-ค่าที่พักมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2559 และเห็นชอบมาตรการภาษีเที่ยวและกิน ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นเวลา 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-17 เม.ย. โดยประชาชน นำใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนลดหย่อนได้ทั้ง 2 มาตรการ รวมลดหย่อนได้สูงสุดถึง 30,000 บาท คาดว่าทั้ง 2 มาตรการจะทำให้รัฐบาลจะสูญเสียรายได้ 2,300 ล้านบาท



+++ กระทรวงการคลังได้ประเมินว่าทั้ง 2 มาตรการ แม้จะทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ แต่จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีเพิ่มขึ้น เพราะหากจะเข้าร่วมมาตรการนี้ ก็ต้องเข้าไปจดทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการทำบัญชีชุดเดียว รวมทั้ง ยังช่วยให้เศรษฐกิจภายในประเทศให้เกิดการใช้จ่ายของประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์



+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อเนื่อง ระหว่างรอการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ที่จะลงทุนได้ภายในปีนี้ เชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้เกินร้อยละ 3 ซึ่ง สศค.จะปรับประมาณการเศรษฐกิจอีกครั้งในเดือน เม.ย.นี้

 



 

ข่าวทั้งหมด

X