ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน คดีรถเบนซ์พุ่งชนรถยนต์ฟอร์ด ทำให้ 2 นักศึกษาปริญญาโทเสียชีวิต พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค (ผบช.ภ.) 1 เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามคดี โดยมีพล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.จว.)พระนครศรีอยุธยา พนักงานสอบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน และญาติผู้เสียชีวิต ร่วมรับฟัง พล.ต.อ.พงศพัศ เปิดเผยว่า ผลการสอบปากคำ การตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานแวดล้อม คืบหน้าไปมากแล้ว พนักงานสอบสวนชุดที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ที่มี พ.ต.อ.สุรินทร์ ทัพพันบุปผา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(รองผบก.จว.) พระนครศรีอยุธยา เป็นหัวหน้าชุด ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ เพียงพอที่จะดำเนินคดีกับนายเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหาที่ขับรถเบนซ์ ตามข้อหาที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งไว้ คือ ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และ ขับรถขณะหย่อนความสามารถหรือขับรถขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งได้เพิ่มข้อหาอีกคือ ขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหมด และ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยผู้อื่น จะสามารถสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งให้อัยการส่งฟ้อง ได้ไม่เกิน สิ้นเดือนเมษายน
พล.ต.อ.พงศพัศ เปิดเผยว่า ผลการตรวจความเร็วของรถเบนซ์ พบว่า 215- 257 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่ามีความความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด ส่วนผู้ต้องหาที่นำฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจะครบกำหนดผัดแรกในวันพรุ่งนี้ พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขังผัด 2 มีกำหนด 12 วัน โดยผู้ต้องหา อยู่ระหว่างการประกันตัว และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด คือ ห้ามออกประเทศ ห้ามขับรถ และยึดใบขับขี่ โดยในส่วนของใบขับขี่ พนักงานสอบสวนได้นำส่งศาลเรียบร้อยแล้ว
CR:แฟ้มภาพ