ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ยังติดลบ 1.62

29 มีนาคม 2559, 13:48น.


นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) ในภาพรวมเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ติดลบร้อยละ 1.62 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยภาพรวมพบว่าการผลิตยังอยู่ในระดับปกติใกล้เคียงกับปีที่แล้ว“



โดยอุตสาหกรรมที่ปรับลดลง ได้แก่ รถยนต์ เหล็กและเหล็กกล้า เครื่องแต่งกาย และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ เนื่องจากผู้ประกอบการยังไม่มีความเชื่อมั่น และภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว อุตสาหกรรมหลักจึงยังปรับตัวลดลงแต่คาดว่า ภาพรวมทั้งปีนี้จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ร้อยละ 2.5 ขณะที่จีดีพีภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ร้อยละ 2 และมีแนวโน้มเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากเอ็มพีไอในเดือนกุมภาพันธ์ติดลบน้อยกว่าเมื่อเดือนมกราคม ที่ติดลบร้อยละ 3.5 และมีอัตราการใช้กำลังผลิตเพิ่มขึ้น มีการส่งสินค้าเพิ่มขึ้น กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.62



ส่วนอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีลดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ผลิตลดลง แต่การส่งออกรถกระบะ ประเภทพีพีวีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดประเทศแถบตะวันออกกลาง โอเชียเนีย และแอฟริกา ส่วนอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ผลิตลดลงเพราะมีการเหล็กลดลงทั้งยังมีเหล็กสำเร็จรูปจากจีนเข้ามาในไทยจำนวนมาก สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปลดลง เพราะคำสั่งซื้อลดลงทั้งจากในและต่างประเทศ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนการผลิตของไทย สูงกว่าของประเทศคู่แข่ง ขณะที่อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภาพรวมการผลิตลดลง แต่เมื่อแยกประเภทพบว่า กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 3 อันดับแรก ได้แก่ พัดลม หม้อหุงข้าว และเตาอบไมโครเวฟ ที่มีการส่งออกไปตลาดอาเซียนได้มากขึ้น



อุตสาหกรรมที่ส่งผลบวกต่อดัชนีอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร แม้จะมีปัญหาภัยแล้งทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรของโลกลดลง แต่แนวโน้มราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้การผลิตและการส่งออกปรับตัวดีขึ้น โดยเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ การผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้เครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณก็มีการผลิตเพิ่มขึ้นเกือบทุกรายการสินค้า เนื่องจากสินค้าที่มีคุณภาพและมีการพัฒนารูปแบบใหม่ๆ ที่สวยงาม เก็บเป็นของสะสมได้ ทำให้สินค้าได้รับความนิยม และเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รองลงมาคือ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ที่มีความต้องการภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์ยางมีผลผลิตเพิ่มขึ้นทั้งยางแท่งและยางแผ่น ส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบสำหรับยานยนต์ และเครื่องยนต์ มีการผลิตเพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้ภายในประเทศเป็นหลัก



..

ข่าวทั้งหมด

X