นายกฯหารือปลัดกต.สหรัฐ/รองนายกฯย้ำมาตรการป้องกันภัยก่อการร้าย/บันคีมุนประณามเหตุโจมตีที่ปากีสถาน*

ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าปฏิบัติภารกิจภายในตึกไทยคู่ฟ้า ตั้งแต่ช่วงเช้า และต้อนรับนางซาร่าห์ ซีวอล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาด้านกิจการพลเมือง ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ที่เข้าเยี่ยมคารวะ และกังวลเกี่ยวกับการเมืองไทย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2560 ส่วนร่างรัฐธรรมนูญก็กำลังเข้าสู่กระบวนการทำประชามติ

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) และในช่วงบ่าย นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ จะเข้าเยี่ยมคารวะ และแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ จากนั้นจะร่วมเปิดการประชุมโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยราชการไทย-สิงคโปร์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงมาตรการป้องกันภัยคุกคามการก่อการร้าย ว่ามีการเน้นย้ำกับหน่วยงานด้านความมั่นคงมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามก็ฝากประชาชนแจ้งเบาะแสหากพบเห็นสิ่งผิดปกติ

ส่วนคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)วันนี้ จะประชุมจัดเรียงมาตรา และตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย กรธ. , สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)

ส่วนที่อาคารรัฐสภากลุ่มตัวแทนประชาชนในนามกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ จำนวนกว่า 100 คน จาก 6 จังหวัด เข้ายื่นหนังสือต่อ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 เพื่อคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.แร่ ที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอเข้าสู่ สนช.เนื่องจากละเมิดสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญอันมิชอบด้วยหลักสิทธิมนุษยชน และอาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนอันมิชอบด้วยกฏหมาย

นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติแถลงประณามเหตุระเบิดฆ่าตัวตายช่วงเทศกาลอีสเตอร์ในปากีสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 69 คน และบาดเจ็บกว่า 300 คนในเมืองละฮอร์ ซึ่งเป็นการก่อการร้ายที่หวังข่มขวัญให้เกิดความหวาดกลัว โดยเรียกร้องให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว และขอให้รัฐบาลหามาตรการปกป้องประชาชนทุกกลุ่มเชื้อชาติและศาสนาในปากีสถาน

ท่าอากาศยานนานาชาติบรัสเซลส์ เตรียมทดสอบประสิทธิภาพของสนามบินซาเวนเทมครั้งใหญ่ในวันพรุ่งนี้ โดยจะใช้พนักงานราว 800 คน ร่วมการทดสอบระบบรักษาความปลอดภัยและระบบเช็คอิน หลังจากที่สนามบินต้องปิดให้บริการเมื่อวันที่ 22 มีนาคม เนื่องจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้ง และต้องปรับเที่ยวบินไปยังสนามบินแห่งอื่น

ส่วนท่าอากาศยานนานาชาติตริภูวัน ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติเพียงแห่งเดียวของเนปาล ซี่งมีผู้ที่โทรศัพท์มาขู่วางระเบิดบนเครื่องบินลำหนึ่ง ผลการตรวจสอบไม่พบระเบิด และเปิดบริการตามปกติแล้ว

...