*เบลเยียม ลดระดับเฝ้าระวังภัย/ตุรกีรวบชายญี่ปุ่นร่วมกลุ่มไอเอส/ซาอุฯทบทวนแผนรักษาความปลอดภัยพิธีฮัจญ์*

25 มีนาคม 2559, 05:19น.


++++นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนรัสเซียจนถึงวันศุกร์นี้ เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขวิกฤติซีเรีย ยังมีกำหนดเดินทางไปกรุงบรัสเซล ของเบลเยียมในวันศุกร์นี้ เช่นกัน ในฐานะตัวแทนของสหรัฐฯ เพื่อร่วมแสดงความเสียใจ และไว้อาลัยในความสูญเสียที่เกิดขึ้น ตลอดจนพบกับผู้แทนของทางการเบลเยียมและสหภาพยุโรป หรืออียูด้วย นายแคร์รี่ ย้ำเรื่องการสนับสนุนเบลเยียม ทั้งการสืบสวนสอบสวนหาผู้ก่อเหตุ และรวบรวมการสนับสนุนจากนานาชาติในการปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรง



+++สถานการณ์ล่าสุดที่เบลเยียม นายยาน ยัมบอน รัฐมนตรีมหาดไทย เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์อาร์แอลทีว่า ทางการลดระดับเฝ้าระวังจากระดับ 4 เหลือ 3 เป็นไปตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ประเมินภัยคุกคามก่อการร้าย



+++นายอเลน เลอเฟร์ฟ ผู้อำนวยการศูนย์วิกฤต เปิดเผยว่า สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินต่างๆค่อยๆกลับมาเปิดบริการได้เพิ่มเติม ภายใต้การดูแลรักษาความปลอดภัยของตำรวจและทหาร สนามบิน ที่ปิดบริการจะกลับมาเปิดบริการภายใต้การตรวจตราอย่างละเอียดบริเวณทางเข้าและมีสุนัขดมกลิ่นสอดส่องความผิดปกติ       



+++บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้นำผู้โดยสารจำนวน 220 คน เดินทางด้วยรถบัสออกจากกรุงบรัสเซลไปยังท่าอากาศยานชาร์ลเดอโกล ประเทศฝรั่งเศส และการบินไทยได้นำเครื่องบินพร้อมลูกเรือ ทำการบินจากท่าอากาศยานบรัสเซลไปยังท่าอากาศยานชาร์ลเดอโกล เพื่อรับผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าว และนำขึ้นเที่ยวบินพิเศษของการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 9359 โดยจะทำการบินออกจากท่าอากาศยานชาร์ลเดอโกล เวลา 15.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) กลับมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 08.10 น.



+++ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เบลเยียม เมื่อวันอังคาร ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของเบลเยียมว่า มีผู้ก่อการร้าย 5 คนที่หลายหน่วยงานของเบลเยียมระบุว่าร่วมลงมือก่อเหตุโจมตีกรุงบรัสเซล เมื่อวันอังคาร มีคนเสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 270 คน นายคาลิด เอลบาคราอี อายุ 27 ปีคือ 1 ใน 2 คนร้ายที่ระเบิดรถไฟใต้ดินใกล้สถานีมาลเบค ส่วนคนร้ายรายที่ 2 ขณะนี้ตำรวจไม่ทราบแหล่งที่อยู่ ไม่ทราบว่าเสียชีวิตหรือยังมีชีวิตอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นว่าชายคนที่ 2 นี้ถือกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่สถานีรถไฟดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบว่าเป็น 1 ใน 20 ศพที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่สถานีนั้นหรือไม่



+++ส่วนเหตุระเบิดที่สนามบินซาเวนเทม กรุงบรัสเซล มีคนร้าย 3 คน รวมถึงมือระเบิดฆ่าตัวตายคือ นายอิบราฮิม เอลบาคราอี วัย 24 ปี น้องชายของนายคาลิด อีกคนคือนายนาจีม ลาชราอี วัย 24 ปี มือประกอบระเบิด เสียชีวิตที่สนามบินเช่นเดียวกัน ส่วนผู้ต้องสงสัยคนที่ 3 ที่สวมเสื้อสีขาว ตำรวจกล่าวว่าหลบหนีไปได้



+++นายบ็อบ แบร์ นักวิเคราะห์ข่าวกรองและความมั่นคงของซีเอ็นเอ็นระบุว่าจากอาวุธและวัตถุระเบิดจำนวนมากที่ตำรวจเบลเยียมยึดมาได้ แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ทั้งหมด นายแบร์ คิดว่า มีเหตุผลที่ผู้คนในยุโรปจะยังมีความหวั่นวิตก ระบุว่าอังกฤษและฝรั่งเศสอาจจะเป็นเป้าหมายการโจมตีครั้งต่อไปของคนร้ายกลุ่มนี้



+++นายซาลาห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญจากเหตุโจมตีกรุงปารีสของฝรั่งเศสที่ถูกจับกุมที่กรุงบรัสเซล ของเบลเยียม ต้องการให้ส่งตัวเขาไปรับทราบข้อกล่าวหาในฝรั่งเศสโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  ทนายความของนายอับเดสลาม กล่าวว่า นายอับเดสลามเปลี่ยนใจแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้าที่ระบุว่าจะคัดค้านการส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังกรุงปารีส ส่วนเหตุโจมตีสนามบินในเบลเยียม ยืนยันว่า ไม่ทราบว่าจะมีการโจมตีเกิดขึ้น ขณะนี้นายอับเดสลาม ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำความมั่นคงสูงในเมืองบรูช ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงบรัสเซล เขาเป็นบุคคลที่ประเทศในยุโรปต้องการตัวมากที่สุด หลบหนีมานาน 4 เดือนภายหลังร่วมก่อเหตุในการโจมตีกรุงปารีสด้วยระเบิดฆ่าตัวตายและใช้อาวุธปืน



+++ตำรวจตุรกี ควบคุมตัวชายวัย 24 ปีชาวญี่ปุ่น เปิดเผยชื่อได้เพียงอักษรย่อ เอ็ม.เอ็ม. ขณะที่ชายคนนี้ พยายามจะข้ามแดน จากภาคใต้ของตุรกีเข้าสู่ซีเรีย โดยมีความตั้งใจจะไปเข้าร่วมกับกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส  นายเอ็ม.เอ็ม.ถือหนังสือเดินทางญี่ปุ่น และบอกกับเจ้าหน้าที่สอบสวนของตุรกีว่า เขาต้องการเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส  พร้อมทั้งเปิดเผยว่าติดต่อกับกลุ่มไอเอสผ่านสื่อสังคมออนไลน์



+++เมื่อวันเสาร์ เกิดเหตุเครื่องบินโบอิ้งสายการบินฟลายดูไบตกในรัสเซีย คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้ง 62 ศพ รวมถึงลูกเรือ 7 ศพ มีรายงานจากเพื่อนนักบินของนายอริสโตส โซคราตุส ชาวไซปรัสวัย 35 ปี กัปตันประจำเครื่องบินที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนเสียชีวิต กัปตันโซคราตุส เตรียมจะยื่นใบลาออก ให้เหตุผลว่าเหนื่อยล้ามานานจากการเปลี่ยนกะทำงานจากกลางวันเป็นกลางคืน ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้มีการคาดการณ์ว่า สาเหตุอาการเหนื่อยล้าของนักบิน อาจจะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ส่วนสาเหตุอื่นๆคาดว่าเกิดจากทัศนวิสัยแย่ ฝนตกหนักและลมแรงในวันเกิดเหตุ ทำให้เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ขณะลงจอด



+++โฆษกสายการบินฟลายดูไบ ระบุว่า ทุกฝ่ายไม่ควรจะคาดเดาต่างๆนานาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ควรรอฟังผลสอบสวนที่เป็นกลางจากคณะผู้สอบสวนรัสเซียสำหรับอาการเหนื่อยล้าของนักบินเริ่มเป็นประเด็นที่น่ากังวลในอุตสาหกรรมการบิน โดยสำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งยุโรป(อีเอเอสเอ)เคยเสนอให้จำกัดระยะเวลาที่นักบินทำการบิน



+++เมื่อวานนี้ ญาติมิตรผู้เสียชีวิตจากเหตุนายอันเดรียส ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วยชาวเยอรมันวัย 27 ปี นักบินผู้ช่วย จงใจขับเครื่องบินสายการบินเยอรมันวิงส์พุ่งชนเทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศส ร่วมพิธีรำลึกครบ 1 ปีของโศกนาฏกรรมดังกล่าว พิธีเริ่มด้วยการอ่านรายชื่อผู้โดยสารและลูกเรือที่เสียชีวิตทั้งหมด 149 คน ตามด้วยการสงบนิ่งไว้อาลัย 1 นาทีในเวลา 09.41 น.ตามเวลามาตรฐานสากล ตรงกับเวลา 16.41 น.เมื่อวานนี้ ตามเวลาในไทย ซึ่งเป็นเวลาที่เครื่องบินชน ครอบครัวของนายลูบิตซ์ไม่มาร่วมงานด้วย และไม่มีตัวแทนจากทางการเข้าร่วมเพราะเป็นพิธีส่วนตัว ขณะที่คณะผู้บริหารของสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ในฐานะบริษัทแม่ของเยอรมันวิงส์พร้อมพนักงานลุฟท์ฮันซ่า 100 คนมาร่วมพิธีเพื่อให้เกียรติผู้เสียชีวิตและให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย ลุฟท์ฮันซ่าถูกครอบครัวผู้เสียชีวิตฟ้องที่ศาลสหรัฐฯว่าให้นายลูบิตซ์ขึ้นบินทั้งที่มีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า มีแนวโน้มฆ่าตัวตาย และพบแพทย์ตลอดหลายปีก่อนเกิดเหตุ



+++กองกำลังรัฐบาลซีเรีย บุกเข้าไปยังเมืองมรดกโลกพัลไมรา ได้แล้ว หลังถูกยึดโดยกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)เมื่อปีก่อน หลังกองทัพซีเรียและกลุ่มนักรบพันธมิตรสามารถยึดเนินเขาหลายลูก เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ทำให้สามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสช่วงใจกลางเมืองด้านล่างได้อย่างชัดเจน กองกำลังรัฐบาลซีเรียเริ่มปฏิบัติการเชิงรุกเมื่อต้นเดือนนี้เพื่อยึดเมืองพัลไมรากลับคืนมา โดยได้รับการสนับสนุนการโจมตีทางอากาศจากรัสเซีย+++ทางการซาอุดีอาระเบีย ประชุมสัมนาเชิงปฏิบัติการ ทบทวนแผนรักษาความปลอดภัย ระหว่างพิธีฮัจญ์ประจำปี หลังเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้วเหตุการณ์โกลาหลและเบียดเสียดเหยียบกันตาย ที่เมืองมินา ในซาอุดีอาระเบีย ระหว่างการประกอบพิธีฮัจญ์ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2558 นับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่มีนักแสวงบุญเสียชีวิตมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ของพิธีฮัจญ์ มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,411 ศพ พิธีฮัจญ์ปีที่แล้วยังเกิดเหตุการณ์เครนก่อสร้างพังถล่ม ในเมืองเมกกะ มีผู้เสียชีวิต 111 ศพ สำนักข่าวซาอุดิ กาเซตตา รายงานว่า การประชุมสัมนาเชิงปฏิบัติการเป็นเวลา 3 วัน สิ้นสุดเมื่อวานนี้ ได้มีการทบทวนแผนการฉุกเฉินด้านการแพทย์ และ บทเรียนจากพิธีฮัจญ์เมื่อปีที่แล้ว มีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานของรัฐบาลเข้าร่วมด้วย



+++อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามพุ่งสูง ช่วงไตรมาสแรกของปี ถือเป็นความพลิกผัน หลังจากเมื่อปีที่แล้ว เงินเฟ้อลดลงเป็นศูนย์ สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (จีเอสโอ) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อในไตรมาสแรกของปีนี้ อยู่ที่ร้อยละ 1.25 สูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเฉพาะในเดือน มี.ค. เวียดนามได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อที่ไม่สามารถควบคุมได้ เศรษฐกิจเวียดนามเมื่อปีที่แล้ว เติบโตรวดเร็วสุดในรอบ 5 ปี จากปัจจัยหลักการส่งออกที่แข็งแกร่ง และการลงทุนของต่างชาติ โดยตัวเลขการขยายตัวของจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 6.68 สูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ร้อยละ 6.2



CR:BBC,AP



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X