ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของเบลเยียมว่า มีผู้ก่อการร้าย 5 คนที่หลายหน่วยงานของเบลเยียมระบุว่าร่วมลงมือก่อเหตุโจมตีกรุงบรัสเซล เมื่อวันอังคาร มีคนเสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 270 คน นายคาลิด เอลบาคราอี อายุ 27 ปีคือ 1 ใน 2 คนร้ายที่ระเบิดรถไฟใต้ดินใกล้สถานีมาลเบค ส่วนคนร้ายรายที่ 2 ขณะนี้ตำรวจไม่ทราบแหล่งที่อยู่ ไม่ทราบว่าเสียชีวิตหรือยังมีชีวิตอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นว่าชายคนที่ 2 นี้ถือกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่สถานีรถไฟดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบว่าเป็น 1 ใน 20 ศพที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่สถานีนั้นหรือไม่
ส่วนเหตุระเบิดที่สนามบินซาเวนเทม กรุงบรัสเซล มีคนร้าย 3 คน รวมถึงมือระเบิดฆ่าตัวตายคือ นายอิบราฮิม เอลบาคราอี วัย 24 ปี น้องชายของนายคาลิด อีกคนคือนายนาจีม ลาชราอี วัย 24 ปี มือประกอบระเบิด เสียชีวิตที่สนามบินเช่นเดียวกัน ส่วนผู้ต้องสงสัยคนที่ 3 ที่สวมเสื้อสีขาว ตำรวจกล่าวว่าหลบหนีไปได้
ด้านนายเฟรเดริก แวน ลีอิว อัยการเบลเยียม กล่าวว่า ตำรวจได้ตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยแห่งหนึ่งในกรุงบรัสเซล พบสารเคมีประกอบระเบิด 15 กิโลกรัม ตะปูและวัตถุประกอบระเบิดอื่นๆจำนวนมาก
ด้านนายบ็อบ แบร์ นักวิเคราะห์ข่าวกรองและความมั่นคงของซีเอ็นเอ็นระบุว่าจากอาวุธและวัตถุระเบิดจำนวนมากที่ตำรวจเบลเยียมยึดมาได้ แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ทั้งหมด
นายแบร์ คิดว่า มีเหตุผลที่ผู้คนในยุโรปจะยังมีความหวั่นวิตก ระบุว่าอังกฤษและฝรั่งเศสอาจจะเป็นเป้าหมายการโจมตีครั้งต่อไปของคนร้ายกลุ่มนี้ นอกจากนี้รัฐบาลของหลายประเทศยุโรปมักจะล่าช้าในการสร้างแหล่งข่าวภายในชุมชนที่คนร้ายกลบดานอยู่ ที่สำคัญคือชุมชนเชื้อสายแอฟริกาเหนือมักจะมีความกลมเกลียวกันมาก ทำให้ยากที่หน่วยข่าวกรองของยุโรปจะแทรกซึมเข้าไปหาข่าว นอกจากนี้รัฐบาลก็ไม่เคยเหลียวแลชุมชนเหล่านั้นมานานด้วย ทำให้ไม่ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านมากเท่าที่ควร
ทีมต่างประเทศ