ท่าอากาศยานนานาชาติฮาร์ตสฟิลด์-แจ็คสัน ในเมืองแอตแลนตา ซึ่งเป็นสนามบินที่รองรับผู้โดยสารมากที่สุดของสหรัฐ สั่งอพยพประชาชนออกจากอาคารผู้โดยสารภายในประเทศชั่วคราว เมื่อวันพุธ หลังพบวัตถุต้องสงสัย ก่อนกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หลังได้รับการยืนยันว่าวัตถุนั้นไม่ใช่ระเบิด เหตุการณ์ที่สนามบินแอตแลนตาเกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังสนามบินนานาชาติเดนเวอร์ ในรัฐโคโลราโด ต้องระงับให้บริการชั่วคราวเมื่อวันอังคาร เนื่องจากตรวจพบวัตถุต้องสงสัย เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังกลุ่มไอเอสก่อเหตุเหตุระเบิด 2 ครั้งโจมตีสนามบินนานาชาติบรัสเซลส์ ในเบลเยียม และระเบิดโจมตีสถานีถไฟใต้ดิน
นายมาร์ค โทเนอร์ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่าสถานการณ์ในเบลเยียมยังอยู่ในขั้น "อ่อนไหว" อย่างมาก และรัฐบาลสหรัฐกังวลต่อรายงานที่ว่า มีชาวอเมริกันได้รับบาดเจ็บและสูญหายจากเหตุการณ์ที่กรุงบรัสเซลส์ ด้านนายเดวิน นูนส์ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ตั้งข้อสังเกตว่า การโจมตีของคนร้ายอาจต้องการส่งสัญญาณบางอย่างมายังสหรัฐ เนื่องจากการระเบิดที่สนามบินบรัสเซลส์เกิดขึ้นใกล้กับเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส และสถานีรถไฟใต้ดินที่เกิดระเบิดในเวลาต่อมา ยังอยู่ใกล้กับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงบรัสเซลส์ด้วย นอกจากอยู่ใกล้กับ สำนักงานใหญ่ของสหภาพยุโรป ( อียู ) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต )
นายเจห์ จอห์นสัน รมว.กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ ยืนยันยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายในการพุ่งเป้าโจมตีสหรัฐ