หลังการแถลงผลการตรวจสอบ โครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช. )พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า รู้สึกสบายใจ หลังได้รับฟังข้อเท็จจริงจากการพิสูจน์โดยหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือไม่มีใครบังคับได้ พร้อมชี้แจง กรณีที่ใช้คำว่าหัวคิว ว่าเป็นการเข้าใจผิดที่คลาดเคลื่อนจากการให้สัมภาษณ์ ส่วนข้อสงสัยที่ต้องมีการนำเงินมาบริจาคเพื่อลบล้างความผิด ขอยืนยันว่าเป็นการกระทำมานานตั้งแต่ปีงบประมาณที่แล้ว สามารถตรวจสอบวันที่บริจาคได้ ไม่ใช่เป็นการบริจาคเพื่อลบล้างความผิด
พล.อ.อุดมเดช ยังยืนยันจะดำเนินโครงการต่อไป เพราะการสร้างอุทยานราชภักดิ์คือเป็นสถานที่ระลึกถึงสถาบันกษัตริย์ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ทั้งกับชาวไทยและต่างประเทศ ต้องการจัดทำห้องนิทรรศการแสดงถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย การจัดทำลานประกอบพิธีเพื่อให้รัฐและเอกชนได้ใช้ประโยชน์ การจัดทำอาคารอเนกประสงค์ ซึ่งได้ประสานงานกับกองทัพบกเพื่อดำเนินการต่อหากการตรวจสอบได้ข้อยุติ เพื่อให้คนไทยได้มาระลึกถึงพระมหากษัตริย์ โดยหลังการก่อสร้างจนถึงขณะนี้มีผู้เข้าชมอุทยานราชภักดิ์แล้ว มีจำนวนมากกว่า 3.8 ล้านคน
สำหรับการดูแลอุทยานฯจะใช้เงินบริจาคในการดูแลเท่านั้น โดยไม่ได้ใช้เงินราชการ การก่อตั้งมูลนิธิเพื่อไม่ให้มีการทำงานและการใช้เงินที่อิงกับราชการ ยืนยันความสุจริตในทุกขั้นตอน และจะไม่ใช้เงินของราชการทั้งในปัจจุบันและอนาคตโดยจะใช้เงินบริจาคเพียงอย่างเดียว เบื้องต้นจะเชิญผู้บัญชาการกองทัพบกทุกคนมาเป็นประธานมูลนิธิโดยตำแหน่ง แต่ก็ต้องชะลอไปเพราะมีเรื่องการตรวจสอบเข้ามา ซึ่งก็ยินดีที่จะให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้ามาตรวจสอบในปนะเด็นที่มีความสงสัยอยู่
พล.อ.อุดมเดช ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหากับพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมซึ่งเมื่อไหร่ที่พบกันก็คุยกันตามปกติแต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องโครงการอุทยานราชภักดิ์เพราะถือว่าต่างฝ่ายต่างก็โตกันแล้วและมีความรับผิดชอบในหน้าที่บทบาทที่แตกต่างกัน พร้อมขอบคุณนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้กำลังใจมาโดยตลอด และให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ว่าโครงการดังกล่าวไม่มีการทุจริต และจะไม่มีการฟ้องร้องบุคคลที่เคยให้สัมภาษณ์ พาดพิงถึงด้วย จากนี้ จะไม่มีการพูดย้อนหลังอีก แต่อยากให้ทุกคนได้มีความเข้าใจและมาร่วมกันสร้างสิ่งดีๆที่เป็นประโยชน์เพื่อเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ
ผสข. ปิยะธิดา เพชรดี