*ในหลวง-พระราชินี มีพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยเหตุที่เบลเยียม/นายกฯสั่งคุมเข้มสนามบิน*

23 มีนาคม 2559, 19:41น.


+++ความคืบหน้าเหตุระเบิดในกรุงบรัสเซล เบลเยียม เมื่อเช้าวานนี้มีคนเสียชีวิต 34 ศพ บาดเจ็บ 250 คน หลายประเทศต่างเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ส่งพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยอย่างสุดซึ้ง ไปยังสมเด็จพระราชาธิบดีเบลเยียม และครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 1 และการประชุมโป๋วอ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย ระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคมนี้ ที่เมืองซานย่า มณฑลไห่หนาน พล.อ.ประยุทธ์  สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเพิ่มมาตรการความเข้มงวดด้านความปลอดภัยที่สนามบินแล้ว ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีความผิดปกติใด ๆ จึงขอให้ทุกคนสบายใจและปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนด ซึ่งมาตรการที่เตรียมไว้สามารถดำเนิการได้แล้วประมาณร้อยละ 90 เหลือเพียงการติดตั้งเครื่องมือที่ทันสมัย ขอประชาชนในแต่ละพื้นที่ หรือชุมชนต่าง ๆ ช่วยกันสอดส่องและเฝ้าระวังบุคคลที่แปลกปลอม หรือผิดสังเกต ส่วนเรื่องการข่าวได้มีการเชื่อมโยงกับประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อส่งข้อมูลให้มีการเฝ้าระวังตามสนามบินและแนวชายแดน



+++นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท.ยังคงประกาศใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยระดับ 3 สูงสุด คือกำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ที่อาจมีความเสี่ยง รวมทั้งเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับอุปกรณ์ด้านการรักษาความปลอดภัย เพื่อมิให้เกิดข้อบกพร่องหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ขณะนี้ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งภายใต้การดูแลของ ทอท. คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ยังคงระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยที่ระดับ 3 สูงสุดตามเดิมซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุการณ์รุนแรงในกรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2558



+++ส่วนความคืบหน้าการติดตามคนร้าย สื่อท้องถิ่นของเบลเยียมรายงานอ้างแหล่งข่าวหน่วยงานกระทรวงยุติธรรมว่า ตำรวจสามารถจับกุมนายนาจิม ลาอัชราอุย คนร้ายสำคัญที่ก่อเหตุโจมตีสนามบินซาเวนเทม กรุงบรัสเซลได้ในเทศบาลอันเดอร์เลคต์ทางตะวันตกของกรุงบรัสเซล คาดว่าเขาเป็นคนที่อยู่ทางขวามือในกล้องโทรทัศน์วงจรปิด(ซีซีทีวี)ที่บันทึกเหตุการณ์ช่วงก่อนเกิดเหตุโจมตีสนามบินซาเวนเทมเมื่อเช้าวานนี้



+++ด้านนักวิเคราะห์เชื่อว่า นายลาอัชราอุย เป็นผู้ประกอบระเบิดรายสำคัญ ด้านสื่อฝรั่งเศสระบุตรงกันว่าคนร้ายรายนี้มีบทบาทสำคัญในการก่อเหตุโจมตีกรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนปีก่อน มีคนเสียชีวิต 130 ศพ



+++ส่วนคนร้ายอีก 2 คนที่ปรากฏในกล้องซีซีทีวี สื่อของเบลเยียมรายงานอ้างแหล่งข่าวตำรวจหน่วยปราบปราบก่อการร้ายของเบลเยียมว่า นายคาลิด และนายอิบราฮิม เอลบัคราอุย สองพี่น้องที่จุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายในสนามบิน  รัฐบาลเบลเยียมประกาศไว้อาลัย 3 วัน โดยรัฐบาลและประชาชนชาวเบลเยียมทำพิธียืนสงบนิ่ง 1 นาทีไว้อาลัยผู้เสียชีวิตในเวลาเที่ยงวัน ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ หรือเวลา18.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย



+++นอกจากนี้ ทางการเบลเยียม เปิดเผยชื่อผู้เสียชีวิตรายแรกแล้วหลังเหตุโจมตีกรุงบรัสเซล นางอเดลมา มารินา ตาเปีย รุยซ์ คุณแม่ชาวเปรูวัย 36 ปีที่อาศัยอยู่ในกรุงบรัสเซล พร้อมสามีและลูกสาวฝาแฝดวัย 3 ขวบจะได้ขึ้นเครื่องบินไปยังนครนิวยอร์ค สหรัฐฯ ทั้งเธอและครอบครัวต่างตั้งตาคอยเพื่อไปรวมญาติในสหรัฐฯในเทศกาลอีสเตอร์ของชาวคริสต์(วันกลับฟื้นคืนชีพของพระเยซู) ขณะที่เธอพร้อมสามีและลูกก้าวออกจากจุดรอขึ้นเครื่องของสนามบินเพื่อไปขึ้นเครื่อง ปรากฏว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นมา ทำให้สมาชิกในครอบครัวนี้เสียชีวิต นางรุยซ์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่สามีและลูกสาวแฝดรอดตาย แต่บาดเจ็บสาหัส



+++การลงทุนในตลาดหุ้น วันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนสลับบวกลบเกือบตลอดวัน ปัจจัยลบภายนอกยังกดดันบรรยากาศการลงทุน โดยเฉพาะเรื่องเหตุการณ์วินาศกรรมในเบลเยี่ยมกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลก และราคาน้ำมันดิบโลกยังปรับตัวลดลง แต่ช่วงท้ายตลาดดัชนีหุ้นไทยกลับดีดตัวพุ่งแรง จากแรงซื้อกลุ่มธนาคารหนาแน่น หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติคงดอกเบี้ยตามคาดที่ร้อยละ 1.50  รวมถึงโครงการบ้านประชารัฐวงเงิน 70,000 ล้านบาท ที่เริ่มให้ประชาชนแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อแล้ววันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะสามารถผลักดันหุ้นที่เกี่ยวข้องมีแรงซื้อเก็งกำไรในช่วงนี้ค่อนข้างมาก ดัชนีปิดตลาดที่1,412.16 จุด เพิ่มขึ้น 14.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย52,684.59 ล้านบาท



+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น ลดลง 47.57จุด อยู่ที่ 17,000.98 จุด ฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 51.52 จุด 20,615.23 จุด



+++มาที่เรื่องร่างรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ข้อสรุปของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กับข้อเสนอของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ในประเด็นให้มี ส.ว.สรรหา จำนวน 200 คน ที่เลือกโดยคณะกรรมการสรรหา และใช้วิธีการเลือกแบบไขว้อีก 50 คน ตามที่ กรธ.ออกแบบไว้ ยังไม่เห็นรายละเอียดทั้งหมด คงจะได้เห็นในวันที่ 29 มี.ค. ส่วน คสช.จะพอใจหรือไม่นั้น คงต้องถาม คสช. แต่ส่วนตัวมองว่า กรธ.มีข้อจำกัดของตัวเองจากการเดินสายชี้แจงการร่างรัฐธรรมนูญการที่ปรับแก้แบบนี้ ก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าจะพอใจและรับได้ ถือว่าใกล้เคียงสิ่งที่ คสช.เสนอไป โดยคำนึงถึงความจำเป็นตามที่ คสช.บอกไว้ แต่ยังคงรักษาจุดยืนในสิ่งที่คิดขึ้นใหม่



+++บทลงโทษในร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า จะมีการเพิ่มเติมข้อความในมาตรา 62 ระบุว่า กรณีที่ผู้ใดเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียงในสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือในช่องทางอื่นใดที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียงหรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ออกเสียงให้ถือว่า ผู้นั้นกระทำการก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีโทษจำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินสองแสนบาท 

+++ส่วนข้อสงสัยว่าการกระทำใดที่จะเข้าข่ายความผิดก็ต้องมีการยื่นคำร้องมายังสำนักงานกกต.ที่จะมีอนุกรรมการ พิจารณากลั่นกรองว่าจะรับหรือไม่รับก่อนนำเข้าสู่กระบวนการสอบสวน นายสมชัย กล่าวว่า ถ้าเป็นการแสดงความเห็นเชิงหลักวิชาการก็ไม่ต้องกลัว กกต.กำลังจัดทำคำแนะนำว่าการกระทำใดทำได้และการกระทำใดอาจเสี่ยงที่จะขัดกฎหมายประชามติ เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น   

+++การจัดเวทีรณรงค์การออกเสียงประชามติ กกต.ไม่สนับสนุนให้ตั้งเวทีระดับจังหวัด ถ้าหากองค์กรใดประสงค์จะรณรงค์ในระดับจังหวัดเป็นไปได้ว่ากกต.จะไม่อนุมัติ เนื่องจากกกต.จะเปิดโอกาสให้ส่งตัวแทนมาดีเบตผ่านสื่อสาธารณะ โดยจะจัดทั้งหมด 10 รอบให้สองฝ่ายส่งตัวแทนมาแสดงความเห็นกัน ซึ่งถือว่าเป็นเวทีที่ใหญ่ประชาชนเข้าถึงได้มากกว่าและได้ประโยชน์กว่าการจัดเวทีในจังหวัด ส่วนถ้ามีการจัดเวทีโดยไม่แจ้งกกต.ผู้จัดก็ต้องไปรับผิดชอบกันเอง ซึ่งอาจจะเข้าข่ายผิดต่อพ.ร.บ.ประชามติ หากจัดแล้วเกิดความวุ่นวายในพื้นที่นั้น หรือผิดต่อกฎหมายความมั่นคงเรื่องการห้ามชุมนุมทาง



+++ที่ประชุมกกต. เห็นชอบกรอบกำหนดเวลาในการออกเสียงประชามติ คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงต้นเดือนส.ค.  สำหรับงบประมาณในการจัดการออกเสียงประชามติอยู่ที่ 2,991 ล้านบาท ซึ่งกกต. จะส่งให้สำนักงบประมาณ พิจารณาภายในสัปดาห์หน้า  



+++ภารกิจพล.อ.ประยุทธ์ ที่ประเทศจีน ร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ “Shared River, Shared Future  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดการประชุมว่าสมาชิกทั้ง 6 ประเทศ จีน กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และประเทศไทย เชื่อมต่อกันด้วยแม่น้ำล้านช้าง-แม่โขง สายเดียวกันต่างมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ประเทศสมาชิกจึงเผชิญกับความท้าทายร่วมกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นความท้าทายด้านความมั่นคงในรูปแบบต่างๆ ภัยธรรมชาติ ปัญหาเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ร่วมกันและมียุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกัน บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจ และเพื่อผลประโยชน์ต่อทุกประเทศที่เท่าเทียมกัน ด้วยการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน



+++ช่วงหน้าร้อน นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า สำนักอนามัย สำรวจ พบว่า น้ำแข็งที่จำหน่ายในสถานที่จำหน่ายอาหาร ร้อยละ 64.62 ของตัวอย่างที่สุ่มตรวจพบการปนเปื้อนจุลินทรีย์ ที่อาจทำให้โรคระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะเชื้อ Coliforms ซึ่งอยู่ในลำไส้ของคนและสัตว์เลือดอุ่น โดยจะถูกขับถ่ายออกมากับอุจจาระ หากรับประทานอาหารและน้ำที่มีการปนเปื้อนก็จะทำให้มีอาการท้องร่วง ท้องเสีย อาเจียน เป็นไข้ ปวดศีรษะ หรืออาจเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ตัวอย่างน้ำแข็งบรรจุถุงพลาสติก ร้อยละ 100 ไม่พบการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ และตัวอย่างน้ำแข็งบรรจุถุงกระสอบมีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ ร้อยละ 31.5 จึงได้รณรงค์ให้ผู้ประกอบการขนส่งน้ำแข็งใช้ถุงพลาสติกในการบรรจุน้ำแข็งแทนการใช้ถุงกระสอบ ภาชนะรองรับน้ำแข็งต้องสะอาด และดูแลสุขอนามัยของผู้ขนส่งน้ำแข็ง



CR:สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี



 

ข่าวทั้งหมด

X