นางอัมพวัน พิชาลัย ที่ปรึกษาการพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศ หรือเงินเฟ้อ เดือนพฤษภาคม 2557 เท่ากับ 107.90 เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน จะสูงขึ้นร้อยละ 0.40 แต่เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วจะสูงขึ้นร้อยละ 2.62 ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 14 เดือน นับจากเดือนมีนาคม 2556 เนื่องจากการที่สินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์มีราคาแพงขึ้นร้อยละ 4.39 ส่วนสินค้าสำคัญที่สูงขึ้น เช่น ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง สูงขึ้นร้อยละ 1.63 เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ สูงขึ้นร้อยละ 8.03 ไข่และผลิตภัณฑ์นม สูงขึ้นร้อยละ 2.34 เครื่องประกอบอาหารสูงขึ้นร้อยละ 5.22 อาหารสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ 5.34 นอกจากนี้สินค้าหมวดอื่นๆ ก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท จะช่วยตรึงอัตราเงินเฟ้อไม่ให้เพิ่มขึ้นได้ร้อยละ 0.46 และการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม มีผลทำให้เงินเฟ้อไม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.03
กระทรวงพาณิชย์ประเมินว่าเงินเฟ้อในช่วงครึ่งปีน่าจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.25 ครึ่งปีหลังอยู่ที่ร้อยละ 2.4-2.6 โดยต้องประเมินแนวโน้มราคาสินค้า ราคาพลังงาน และค่าเงินบาท โดยเฉพาะเงินบาทต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะอ่อนค่าลงมาก เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เงินเฟ้อทั้งปียังอยู่ในเป้าที่ตั้งไว้ร้อยละ 2-2.8 คาดว่าน่าจะไม่เกินร้อยละ 2.6
...