*รมว.ยธ.สั่งดีเอสไอดำเนินการตามกม.สมเด็จช่วง/กรธ.ขอมีส่วนร่วมแปรญัตติร่างพ.ร.บ.ประชามติ*

+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งการให้พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ดำเนินการตามกฎหมาย หลังจากไม่ได้รับความร่วมมือจากการเดินทางไปสอบปากคำสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง กรณีมีชื่อครอบครองรถเบนซ์ผิดกฎหมาย โดยให้ออกหมายเรียก และจะไม่มีการแจ้งประเด็นกลับไปเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะปฏิบัติไม่ได้ทางสอบสวน

+++ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 21 มี.ค. จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการกับสมเด็จฯช่วง ภายหลังทนายปฏิเสธการให้ปากคำ นอกจากนี้จะสอบถามไปยังพนักงานสอบสวนด้วยว่านัดสอบปากคำพระมหาศาสนมุนี หรือ หลวงพี่แป๊ะ ในช่วงเย็นของวันที่ 21 มี.ค. จะได้สอบปากคำหรือไม่ หากไปพบที่วัดแล้ว ยังจะให้พนักงานสอบสวนส่งประเด็นคำถามเหมือนกรณีสมเด็จฯช่วง ก็ไม่ต้องไป

+++ศาลอาญา รัชดาฯ อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจากเหตุระบบดับเพลิงไพโรเจนของ ธ.ไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รั่วไหลเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพิ่มเติมอีก 5 หมาย มีรายงานนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา หนึ่งในบุคคลที่ถูกออกหมายจับคือ วิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัย บ.เมก้า แพลนเน็ต  เดินทางมามอบตัว พร้อมชี้แจงกรณีที่มีข่าวก่อนเกิดเหตุบริษัทรับพนักงานใหม่ 9 คนเข้ามาทำงานโดยไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมว่า บริษัทได้ให้ข้อมูลเรื่องนี้กับสำนักงานสวัสดิการเพื่อคุ้มครองแรงงานเขตพื้นที่ 2 ไปแล้วในวันเกิดเหตุว่า มีช่างเข้าไปจำนวน 9 คนจริง แต่ทุกคนผ่านการเทรนและฝึกอบรมแล้วก่อนเข้าไปทำงาน

+++ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ที่มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่สอง เป็นประธานลงมติรับหลักการในวาระแรกร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญพ.ศ. 153 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี และงดออกเสียง 5 พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 21 คน เพื่อพิจารณา ภายใน 20 วัน โดยกำหนดแปรญัตติภายใน 5 วัน

+++นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวภายหลังจากการพบปะรับประทานอาหารกลางวันกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ได้มีการหารือกันถึงข้อเสนอ 3 ข้อ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แต่ฝากเพียงขอให้ กรธ. มีส่วนร่วมชี้แจงในขั้นตอนแปรญัตติ ร่าง พ.ร.บ. การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.

+++สำหรับการประชุมพิจารณาเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญนอกสถานที่ ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 23-26 มีนาคมนี้ ก็น่าจะพิจารณาประเด็นที่ยังค้างกันอยู่ โดยจำนวนมาตราอาจจะมีการเพิ่มขึ้นนิดหน่อย

+++การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ คณะของพล.อ.ประยุทธ์ รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานตามโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ที่คลองส่งน้ำหนองมัก ประตูเปิด-ปิดน้ำจุดที่ 1 อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี โดยนายกรัฐมนตรี ชื่นชมประชาชนที่มีแหล่งกักเก็บน้ำ  ไว้ใช้ประโชน์ ในการเกษตรโดยเฉพาะการทำนาจำนวน 190 ครัวเรือน  ในช่วงที่น้ำขาดแคลนได้ นายกรัฐมนตรีฝากให้ กรอ.และภาคราชการขอให้อย่าคำนึงถึงความเติบโตของตัวเลขเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวขอให้ทำงานเพื่อผลประโยชน์และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน และต้องพัฒนาความมั่นคงควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจไปพร้อมกัน นายกรัฐมนตรี  กล่าวทักทายอย่างเป็นกันเองก่อนจะแนะนำให้ชาวบ้านดูละครเวที เรื่องผ้าห่มผืนสุดท้าย  ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทหารไปรบชายแดน ซึ่งคำว่าผ้าห่มผืนสุดท้าย หมายถึง ธงชาติที่คลุมร่างของผู้เสียสละ นั่นคือ เหล่าทหารทั้งหลาย คือ พวกผม  แต่ผมมีบุญจึงรอดมาได้ถึงทุกวันนี้ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืด 3 แสนตัว เพื่อให้เกษตรกรและชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ต่อไป

+++นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า จากสภาพอากาศร้อนจัดในปีนี้ คาดว่าความต้องการใช้สูงสุด(พีค) จะอยู่ที่ประมาณ 29,000เมกะวัตต์ จะเกิดขึ้นเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ และแม้ว่าสำรองไฟฟ้าจะมีเพียงพอ แต่เพื่อลดต้นทุนและลดค่าไฟฟ้าของภาคประชาชนก็ขอความร่วมมือลดใช้พลังงานวันละ 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะการใช้เครื่องปรับอากาศ หากปรับเพิ่มขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียส การใช้ไฟฟ้าจะลดลงร้อยละ 10 ซึ่งการใช้เครื่องปรับอากาศนับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟถึงร้อยละ 50ของค่าไฟรวม

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ 1,382.96 จุด เพิ่มขึ้น 2.76 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 49,250.25 ล้านบาท แม้น้ำมันดิบโลก จะพุ่งดึงบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกคึกคัก แต่เหมือนเป็นเหตุการณ์เพียงระยะสั้นเท่านั้น เพราะดัชนียังมีทิศทางผันผวน โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มทยอยเทขายทำกำไร เพราะความกังวลเรื่องตลาดปรับตัวสูงทำให้หุ้นราคาแพง และเงินทุนต่างชาติแห่ไหลเข้าหนาแน่นมาเกือบ 1 เดือน มูลค่าเกือบ 20,000 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้เริ่มทยอยลดความเสี่ยงออกมาบ้างพอสมควร นอกจากนี้ภาพรวมตลาดไม่มีปัจจัยใหม่ที่ยั่งยืนทั้งภายในและภายนอกที่จะช่วยผลักดันตลาดให้ฟื้นตัวเด่นชัดได้

+++ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น ลดลง 211.57 จุด 16,724.81 จุด  ส่วนฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 167.82 จุด 20,671.63 จุด

+++นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชาจะปลดรัฐมนตรี 3 คนออกจากตำแหน่ง คือนายเกียต ชน รองนายกรัฐมนตรี นายฮอร์นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศและนายอิม ฌุน ลิม รัฐมนตรีกระทรวงที่ดิน เป็นส่วนหนึ่งของการปรับคณะรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ก่อนการเลือกตั้งในปี 2561 ซึ่งผู้สันทัดกรณีหลายคนคาดว่าจะเป็นไปอย่างสูสีที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองกัมพูชา รัฐบาล เสนอรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ต่อรัฐสภา ก่อนการลงมติรับรองในวันที่ 4 เมษายนนี้

+++ผู้สันทัดกรณีหลายคนรวมถึงนายเอียร์ โซฟัล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการทูตและการต่างประเทศจากวิทยาลัยออกซิเดนทัล คอลเลจ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯระบุว่าการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้คงจะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงทิศทางการบริหารประเทศ มีลักษณะคล้ายเปลี่ยนเหล้าเก่าในขวดใหม่เท่านั้น สำหรับนายฮอร์นัมฮง วัย 80 ปีดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมานาน 18 ปี ผู้ที่จะเข้าดำรงตำแหน่งแทนคือนายปรัก โซคุน รัฐมนตรีการสื่อสาร

+++ในช่วงหลังๆ นายฮอร์ นัมฮง มีปัญหาในการเจรจาการทูต  รวมถึงบางครั้งการมีวิวาทะที่ดุเดือดกับเพื่อนบ้านเช่นประเทศไทย นอกจากนั้น ในการทำหน้าที่ประธานการประชุมกลุ่มอาเซียนเมื่อปี 2555 นายฮอร์นัมฮง ถูกกล่าวหาว่ายอมจำนนต่อแรงกดดันจากจีน พันธมิตรกัมพูชา ส่งผลให้ที่ประชุมไม่มีการออกแถลงการณ์ร่วมเป็นครั้งแรกในรอบ 45 ปี พรรคประชาชนกัมพูชาของนายฮุนเซนเกือบพ่ายการเลือกตั้งเมื่อปี 2556 ให้กับพรรคกู้ชาติกัมพูชา พรรคฝ่ายค้าน

CR:ทำเนียบรัฐบาล