*แอร์อินเดียแจงครื่องบินถูกขู่ระเบิด/เฟดคงดอกเบี้ย/ฝรั่งเศสรวบผู้ต้องสงสัย/ญี่ปุ่นส่งเรือดำน้ำไปฟิลิปปินส์-เวียดนาม*

17 มีนาคม 2559, 05:34น.


+++ข้อมูลจาก flightaware.Com. เว็บไซต์ตรวจสอบสถานะการบิน ระบุว่า เที่ยวบินของแอร์อินเดีย เครื่องบินโบอิ้ง787 ดรีมไลเนอร์ เที่ยวบิน เอไอ 332 ของสายการบินแอร์อินเดีย เดินทางจากเดลี ปลายทางที่กรุงเทพฯ ต้องลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อนกำหนดราว 7 นาที ตอนเวลาประมาณ 19.13 น. เมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) เนื่องจากได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศให้ไปจอดที่หลุมจอดเฉพาะ ที่อยู่ห่างจากเที่ยวบินอื่นๆ หลังได้รับคำขู่ระเบิด 2 รอบ  เจ้าหน้าที่ได้ใช้แผนฉุกเฉินอพยพผู้โดยสาร 231 คน ในจำนวนนั้นมีเด็ก 1 คน และลูกเรืออีก 10 คนลงจากเครื่องผ่านทางลาดฉุกเฉิน และจากนั้นก็ดำเนินการค้นหาวัตถุระเบิด ทั้งนี้ มีคนไทยอยู่บนเที่ยวบินประมาณ 8 คน  ผู้โดยสารเป็นชาวอินเดีย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ



+++Indranil Banerjee ผู้บริหารแอร์อินเดีย ประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับเพรสทรัสต์ออฟอินเดีย ระบุว่า ได้มีการตรวจค้นเครื่องบินตามขั้นตอน แต่ไม่พบอะไร พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ผู้โดยสารทุกคนได้รับการอพยพอย่างปลอดภัย ส่วนเที่ยวบินขาออกของสายการบินแห่งชาติอินเดีย เลื่อนมาเป็นวันนี้  แอร์อินเดียระบุในถ้อยแถลงว่า ขณะที่เครื่องบินอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง 15 นาที มีโทรศัพท์ขู่ระเบิดต่อสายมายังศูนย์ประสานงานบริการ(call centre)ในเดลี 2 รอบ จากนั้นจึงได้แจ้งไปยังนักบิน ก่อนที่นักบินจะร้องขอศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศของกรุงเทพฯ ลงจอดก่อนกำหนด ภายใต้การประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างลูกเรือกับศูนย์ควบคุมการจรจาจรทางอากาศ เครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัยในกรุงเทพฯ



+++ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม อยู่ในช่วงร้อยละ 0.25-0.50 ท่ามกลางความคาดหมายใหม่ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายจะขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 2 รอบในรอบปี 2016 หรือแค่ครึ่งหนึ่งจากที่คาดคะเนไว้ก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม  เฟดย้ำว่าสหรัฐฯยังคงเผชิญความเสี่ยงต่างๆจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก



+++นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ระบุในถ้อยแถลงว่ายังคงต้องจับตาดูอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน รวมถึงยังปรับลดประมาณการณ์เป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะยาวจากเดิมร้อยละ 3.5 เหลือร้อยละ 3.3ส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวยังคงชะลอตัว คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเฟดมองเห็นว่าตลาดงานฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ ด้วยคาดหมายว่าอัตราคนว่างงานลดลงเหลือร้อยละ 4.7 ในช่วงสิ้นปี และจะลดลงไปกว่านี้อีกในปี 2017 และ 2018   



+++เหตุการณ์สองมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงที่ก่อเหตุรุนแรงในไนจีเรีย เชื่อว่าเป็นสมาชิกกลุ่มโบโก ฮาราม บุกโจมตีมัสยิดในเขตโมไล แถบชานเมืองไมดูกูรี ทางภาคตะวันออกของไนจีเรีย ขณะที่ประชาชนกำลังประกอบพิธีทางศาสนาอยู่ภายใน แรงระบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตเพื่มขึ้นเป็น 24 ศพ บาดเจ็บอีก 23 คน พ.อ.ซานิ อุสมาน โฆษกค่ายทหารเมืองไมดูกูรี เปิดเผยว่า มือระเบิดคนแรกดึงชนวนสายคาดระเบิดภายในมัสยิด ส่วนคนที่ 2 ซึ่งรออยู่ข้างนอก ดึงชนวนขณะที่ประชาชนที่รอดชีวิตจากระเบิดครั้งแรก วิ่งหนีออกจากมัสยิด มัสยิดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตค่ายทหาร และเคยถูกกลุ่มโบโก ฮาราม โจมตีหลายครั้ง



+++ตำรวจต่อต้านก่อการร้ายของฝรั่งเศส รวบตัวคนกลุ่มหนึ่งที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ต้องสงสัยว่าหนึ่งในนั้นอาจกำลังวางแผนโจมตีกรุงปารีส  นายเบร์กนาร์ กาเซอเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส เปิดเผยว่า มีข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลคนหนึ่ง ที่มีข้อบ่งชี้ว่าเขาอาจลงมือก่อความรุนแรงในฝรั่งเศส พร้อมเตือนว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าการโจมตีจะเกิดขึ้นเร็ววันนี้ โดยขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบก่อน 



+++คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสถานีโทรทัศน์ TF1 รายงานก่อนหน้านี้ว่าผู้ชาย 3 คนและผู้หญิง 1 คนถูกรวบตัว ในกรุงปารีสและแซนแซ็งเดอนี ทางเหนือ ฐานต้องสงสัยกำลังวางแผนโจมตีเร็ววันนี้  ตำรวจยังได้ยึดกระสุนปืนไรเฟิลอัตโนมัติที่ยังไม่ใช้และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จากพวกผู้ต้องสงสัยด้วย 



+++การรวบตัวครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากตำรวจเบลเยียม วิสามัญฆาตกรรมชาวแอลจีเรียวัย 35 ปี ระหว่างปฏิบัติการจู่โจมอพาร์ทเมนต์หลังหนึ่งในกรุงบรัสเซลส์ ในการไล่ล่าผู้ต้องสงสัยโจมตีกรุงปารีส เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน สำนักอัยการกลางของเบลเยียม ระบุในแถลงการณ์ว่า คือนายโมฮัมเหม็ด เบลคาอิด ชาวแอลจีเรีย คนร้ายใช้อาวุธปืนคาลาชนิคอฟ ยิงใส่ตำรวจระหว่างการเข้าตรวจค้น นอกจากนี้ ตำรวจสามารถยึดธงกลุ่มไอเอส พร้อมอาวุธและกระสุนในห้องพักของคนร้ายในอพาร์ทเมนท์ด้วย  



+++หนังสือพิมพ์ดีเวลท์ของเยอรมนี รายงานอ้างนายฮันส์ ปีเตอร์ โดสโคซิล รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรียว่า รัฐบาลออสเตรียจะส่งมอบความช่วยเหลือทางเทคนิค รวมถึงกล้องตรวจการณ์เวลากลางคืน ให้กับรัฐบาลมาซิโดเนียในการปิดชายแดน เส้นทางเข้าสำคัญแห่งหนึ่งในการเดินทางเข้ายุโรปของกลุ่มผู้อพยพ ก่อนหน้านี้รัฐบาลมาซิโดเนียสั่งปิดชายแดนติดต่อกับกรีซเมื่อสัปดาห์ก่อน คนที่พยายามจะข้ามแดนถูกผลักดันกลับไปที่กรีซ ซึ่งมีผู้อพยพ 12,000 คนติดค้างอยู่ในขณะนี้



+++หลังจากจีนกล่าวหาญี่ปุ่น ประเทศคู่แข่งในเอเชียตะวันออก แทรกแซงทะเลจีนใต้ ล่าสุด กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น ประกาศว่า กองเรือดำน้ำญี่ปุ่นจะเข้าจอดเทียบท่าในฟิลิปปินส์เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี เพื่อร่วมการฝึกซ้อมในเขตทะเลเปิด ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19 เม.ย. - 27 เม.ย.ส่วนเรือคุ้มกัน 2 ลำของเรือดำน้ำ จะเลยไปเยือนอ่าวคัมรานห์ของเวียดนาม เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ การประกาศมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน จีนกล่าวอ้างกรรมสิทธิเหนืออาณาเขตเกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ ขณะที่บรูไน มาเลเซีย เวียดนาม และไต้หวัน อ้างกรรมสิทธิเหนือพื้นที่ทั้งหมด หรือเพียงบางส่วนของหมู่เกาะสแปรตลีย์ และเวียดนามกับไต้หวันยังอ้างกรรมสิทธิทับซ้อนกับจีน เหนือหมู่เกาะพาราเซลส์   จีนยังขัดแย้งแยกต่างหากกับญี่ปุ่น เหนือหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศตึงเครียดหนักในช่วงไม่กี่ปีล่าสุด  



+++ศาลฎีกาเกาหลีเหนือในกรุงเปียงยาง ลงโทษจำคุก นายออตโต เฟรเดอริค วอร์มเบียร์ ชาวอเมริกันวัย 21 ปีจากรัฐไวโอมิง ในค่ายกักกันแรงงานเป็นเวลา 15 ปี จากความผิดฐานก่ออาชญากรรมต่อรัฐ หลังจากจำเลยหลั่งน้ำตาให้การรับสารภาพต่อศาลว่า พยายามจะขโมยแผ่นป้ายโฆษณาชวนเชื่อ จากโรงแรมที่พักในกรุงเปียงยาง นายวอร์มเบียร์ ถูกตั้งข้อหาบ่อนทำลายความมั่นคงของรัฐ ตามมาตรา 60 ของประมวลกฎหมายอาญาเกาหลีเหนือ หลังจากเดินทางเข้าเกาหลีเหนือในฐานะนักท่องเที่ยว นายวอร์มเบียร์ นักศึกษาปริญญาตรีมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียในสหรัฐฯ ถูกเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือจับกุม เมื่อเดือน ม.ค. ตามข้อกล่าวหาพยายามขโมยแผ่นป้ายที่มีข้อความโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ในเขตหวงห้ามของโรงแรมที่พักในกรุงเปียงยาง โดยเป็นการกระทำตามคำร้องขอของผู้หญิงที่รู้จักกันรายหนึ่ง ซึ่งต้องการนำแผ่นป้ายดังกล่าวไปแขวนภายในโบสถ์ที่เธอสังกัดในสหรัฐฯ เกาหลีเหนือกล่าวหารัฐบาลสหรัฐฯและรัฐบาลเกาหลีใต้หลายครั้ง ว่าส่งสายลับเข้าเกาหลีเหนือเพื่อโค่นล้มรัฐบาล

+++เว็บไซต์โครงการใช้นกพิราบบินตรวจสภาพอากาศของพลูมแลปส์ ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นตรวจอากาศแบบอัพเดทข้อมูลในกรุงลอนดอน อังกฤษ ระบุว่า นกพิราบที่ติดอุปกรณ์ไฮเทคเริ่มบินลาดตระเวนในกรุงลอนดอน เพื่อตรวจคุณภาพอากาศ 3 วันเริ่มจากเมื่อวานนี้ ที่ตัวนก มีการติดตั้งอุปกรณ์จีพีเอส และระบบตรวจที่ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจวัดระดับไนโตรเจนไดออกไซด์ สารระเหยและมลพิษอื่นๆ นอกจากนี้แอพนี้จะให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้แอพว่าสภาพอากาศที่แย่จะส่งผลร้ายต่อสุขภาพอย่างไร เป้าหมายของโครงการนี้คือ เพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงปัญหามลพิษทางอากาศ ในภาพรวมปัจจุบันมีคนเสียชีวิตจากปัญหามลพิษปีละ 7 ล้านคนทั่วโลก



+++นายจิอันนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ระบุว่า ฟีฟ่าต้องการจะเรียกคืนเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯจาก 41 อดีตกรรมการบริหารฟีฟ่าและองค์กรอื่นๆที่ถูกอัยการสหรัฐฯชี้มูลความผิดฐานคอร์รัปชั่น เพื่อนำเงินดังกล่าวมาพัฒนาวงการฟุตบอลของโลก รวมถึงการสร้างสนามฟุตบอล การพัฒนานักฟุตบอลระดับเยาวชนและผู้ฝึกสอน



CR:คุณมงคล วัชรางกูร, CNN



 

ข่าวทั้งหมด

X