*รองอธิบดีDSI นำทีมเข้าสอบปากคำสมเด็จช่วง ด้านทนายความแจงต้องกำหนดกรอบก่อน*

16 มีนาคม 2559, 19:57น.


ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ในวันนี้ยังคงมีประชาชนทยอยมาทำบุญอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในขณะนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)นำโดย พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดี ดีเอสไอ ได้เข้าสอบปากคำสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถผิดกฎหมายแล้ว



นายสมศักดิ์ โตรักษา หัวหน้าทีมกฏหมายวัดปากน้ำ เปิดเผยว่า สมเด็จช่วง จะลงมาพูดคุยกับดีเอสไอด้วยตัวเอง แต่จะเป็นการหารือเพื่อให้ดีเอสไอกำหนดกรอบในการสอบปากคำว่าเกี่ยวข้องกับความผิดในการจัดซื้อรถยนต์จะประกอบในขั้นตอนใดบ้าง แต่จะยังไม่อนุญาตให้ดีเอสไอทำการสอบปากคำสมเด็จช่วงตามที่ร้องขอ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการสืบสวน ดีเอสไอต้องทำหนังสือถึงสมเด็จช่วง ว่าจะมาสอบปากคำอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่มาของเงินซื้อรถโบราณจำนวน 4 ล้านบาท ทางทนายความวัดปากน้ำภาษีเจริญชี้แจงว่า มีผู้มีจิตศรัทธามอบเงินสดผ่านโครงการซื้อรถโบราณ จำนวน 1 ล้านบาทแก่สมเด็จช่วงโดยตรง เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์โบราณ ซึ่งเป็นการบริจาคส่วนตัว จึงไม่มีใบอนุโมทนาบัตร แต่มีหลักฐานการสั่งจ่ายเช็คชัดเจน ซึ่งผู้บริจาคได้เข้าให้ปากคำกับดีเอสไอแล้ว ส่วนเงินอีก 3 ล้านบาท ได้มาจากการรวบรวมจากผู้มีจิตศรัทธาผ่านโครงการซื้อรถโบราณ โดยมอบให้พระมหาศาสนามุนี หรือหลวงพี่แป๊ะเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับ รถคันดังกล่าว เป็นรถเบนซ์ ทะเบียน ขม.99 กรุงเทพมหานคร ซึ่งดีเอสไอตรวจพบมีการปลอมแปลงเอกสาร และลายมือชื่อจดทะเบียนเป็นรถจดประกอบผิดกฎหมาย เพื่อเลี่ยงภาษีศุลกากรและสรรพสามิต



สำหรับการเข้าสอบปากคำ ดีเอสไอ ได้จัดชุดเข้าสอบปากคำ 7 คน ประกอบด้วยอัยการ 2 คน พนักงานสอบสวนดีเอสไอ 5 คน ซึ่งการสอบปากคำ สมเด็จช่วง จะต้องเป็นผู้ให้ถ้อยคำด้วยตัวเอง ทนายไม่สามารถเข้าฟังได้

ข่าวทั้งหมด

X