*รองนายกฯวิษณุ ชี้ ข้อเสนอสว.สรรหา250คนหลักประกันความมั่นคงชาติ ให้สส.เลือกนายกฯเอง*

ข้อเสนอแม่น้ำ 4สายที่ส่งให้ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าว่า  โดยเจตนาไม่ได้บังคับกรธ.ให้แก้ไขทุกเรื่อง  เป็นเพียงการแจ้งให้ทราบ และให้เหตุผลมากกว่าข้อเสนอทุกครั้งที่ผ่านมา การทำหนังสือนี้เป็นการส่งสัญญานให้กรธ.อีก 20 คนที่ไม่ได้เป็นคสช.ได้รับทราบ เพื่อไม่ให้นายมีชัยแบกรับภาระอยู่คนเดียว และให้กรธ.ทั้งหมดรับทราบว่ามีสถานการณ์ใดที่น่าวิตกอยู่บ้าง ซึ่งจากการพูดคุยของแม่น้ำ4สาย มีการวิเคราะห์ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง โดยมีหลายประเด็นที่น่าวิตก แต่จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดก็ได้

ส่วนประเด็นข้อเสนอให้ส.ว.สรรหามีจำนวน 250 คนเป็นจำนวนที่มากเกินไปหรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะมีเหตุผลระบุไว้ในเอกสาร อีกทั้งในอดีตไม่มีจำนวน ส.ว.มากเช่นนี้ โดยหวังไม่ให้มีการบิดเบือนเสียงเลือกตั้งและผลประโยชน์ ยืนยันว่า ส.ว.สรรหาไม่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง และไม่มีการพูดเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น ส่วนท่าทีการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี ที่ระบุถึงข้อเสนอในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญจนกว่ากรธ.จะพิจารณานั้น นายวิษณุระบุว่า เป็นท่าทางการตอบคำถามของนายกรัฐมนตรี เพราะถ้าหากรู้จักนิสัยของนายกรัฐมนตรีดีจะไม่รู้สึกกดดัน

ส่วนการผู้บัญชาการเหล่าทัพและปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นส.ว.สรรหาโดยตำแหน่งจำนวน 6 คนจาก 250 คนนั้น นายวิษณุกล่าวว่า อย่างน้อยก็จะทำให้รู้อุ่นใจ และมีหลักประกันความมั่นคงของชาติ ส่วนข้อเสนอที่ให้ส.ว.สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า วัตถุประสงค์เพื่อช่วยประคับประคองรัฐบาล ซึ่งหากเป็นรัฐบาลที่ดี แต่หากประพฤติตัวไม่เหมาะสมก็สามารถเปิดอภิปรายและลงมติไม่ไว้วางใจได้ ยืนยันว่า ฝ่ายความมั่นคงไม่ได้แทรกแซงการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่เป็นเพียงการทำงานชั่วคราวเท่านั้น แต่รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนกำหนดไว้ ก็ไม่ถือว่าเป็นการแทรกแซง

ส่วนการกำหนดคุณสมบัติของส.ว.สรรหา ขึ้นอยู่กับกรธ.เป็นผู้กำหนด และจะแก้ระบบอุปถัมภ์ จำเป็นต้องเสี่ยง  โดยการเลือกตั้งยังคงเกิดขึ้นในปี 2560 เพื่อไม่ให้มีแนวโน้มเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือรุนแรงในกว่าในอดีต และนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าจะต้องนำความมั่นคงเป็นตัวตั้งในระยะ 5 ปีแรก แต่หลังจากนั้นจะมีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญก็สามารถทำได้ และคสช.เชื่อว่าระยะเวลา 5 ปี บ้านเมืองคงจะสงบเรียบร้อยแล้ว  โดยคำว่าไม่ได้เป็นประชาธิปไตยตามหลักสากล เป็นจุดอ่อน ทำให้บางปัญหาแก้ไขไม่ได้ แต่เมื่อมีการเลือกตั้งก็จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้มากขึ้น โดยมีส.ว.สรรหาเป็นคนช่วยเสริม

ส่วนประเด็นการทำประชามติ นายวิษณุกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดเรื่องไม่ผ่าน แต่มีการพูดคุยว่าถ้าผ่าน ก็อยากให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ เพราะถ้าหากไม่ผ่านก็ต้องร่างใหม่ และไม่ได้ใช้กฎเกณฑ์ที่ทำมา   ทั้งนี้หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติก็อาจจะกระทบกับโรดแมฟแต่การเลือกตั้งก็ยังคงเกิดขึ้นในปี 2560 แต่ขณะนี้ส่วนตัวต้องพูดในความรู้สึกว่ามันจะผ่าน น่าจะผ่าน และควรจะผ่าน

ส่วนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีนั้น นายวิษณุ ระบุว่า สามารถเลือกจากคนนอกได้และคสช.ก็สามารถเป็นได้เพราะในขณะนั้น คสช.ก็ต้องสิ้นสภาพเป็นเพียงอดีตคสช.เท่านั้น จึงไม่มีข้อห้ามไว้  การเลือกนายกรัฐมนตรีให้ส.ส.ทั้ง500คน  จะต้องเป็นผู้เลือก ตามหลักการแล้วก็ควรเลือกคนใน แต่ถ้าเลือกกันเองไม่ได้คงถึงทางตันเหมือนกัน