*รมว.กลาโหม เดินหน้าปราบทุจริต/น.2 สอบเหตุระบบดับเพลิงขัดข้อง/ผบ.ตร.ย้ายผกก.นราฯเหตุใต้*

16 มีนาคม 2559, 12:14น.


+++การเปิดกิจกรรมโครงการกลาโหมโปร่งใสไร้คอร์รัปชั่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมทั้งผู้บริหารของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ โดยมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้แทนเข้าร่วม พร้อมทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องการให้ความขัดแย้งหมดสิ้น ไม่ให้มีการคอร์รัปชั่นและให้เกิดความโปร่งใส กระทรวงกลาโหม จะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนไม่ได้ถ้าขาดความโปร่งใส



+++รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า มีคนพูดถึงเรื่องซื้ออาวุธว่ามีค่าคอมมิชชั่นต่าง ๆ ทั้งที่เราไม่เคยทำ เพราะการดำเนินการในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์มีขั้นตอนในการดำเนินการทั้งหมด ตั้งแต่การเลือกแบบ การกำหนดราคากลาง การกำหนดผู้ที่เข้ามาร่วมประมูล หรือการจัดซื้อจัดหาแบบจีทูจี มั่นใจว่าจะนำพากระทรวงกลาโหมเพื่อให้โปร่งใสและไร้คอร์รัปชั่นอย่างแท้จริง



+++ข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ไม่ได้กดดันคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) มองว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะต้องการทำในช่วงการเปลี่ยนผ่าน 5 ปี คือระยะต้นของการปฏิรูปให้เกิดความชัดเจน ตามที่ได้เขียนไปในข้อเสนอต้องการให้เป็นรูปธรรมให้ได้ ก็ต้องทำแบบนี้  ยืนยันว่าทำในช่วง 5 ปีนี้ให้เกิดความโปร่งใสให้มากที่สุด เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและถาวร ถือเป็นพื้นฐาน



+++นอกจากนี้ มีข้อเสนอว่า พรรคการเมืองไม่ต้องเสนอรายชื่อ 3 รายชื่อที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเปิดทางให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐธรรมนูญเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ถ้าไม่ให้มีคนนอกก็ไม่มีคนนอก เพียงแต่ขอให้ไม่ให้เสนอชื่อใครก่อนเท่านั้นเอง  หากกรธ.ยังยืนยันหลักการเดิมจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วแต่ กรธ. ก็ขอให้ตอบมาว่าที่ทำไม่ได้ติดขัดเรื่องใด 



+++คดีระบบดับเพลิงใช้สารไพโรเจน ทำงานอัตโนมัติ ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักงานใหญ่ รัชโยธิน (SCB Park) พ.ต.อ.ภาณุเดช สุขวงศ์ ผกก.สน.พหลโยธิน , พ.ต.ท.เฉลียง อินทร์ทิพย์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน และชุดพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ประชุมหาแนวทางสอบสวนคดี  พ.ต.อ.ภาณุเดช เปิดเผยว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวน มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้บริหารของบริษัท เมก้า แพลนเน็ท จำกัด ไปแล้ว เบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหา ซึ่งหลังจากนี้ได้มีการนัดหมายเจ้าหน้าที่ของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักงานใหญ่ (เอสซีบี) มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ในช่วงบ่ายภายในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเริ่มสอบสวนลงรายละเอียดในเรื่องของระบบการทำงานต่างๆ ทั้งทางด้านงานวิศวกรรม และทางเทคนิคของผู้ชำนาญการ ด้วย 



+++คดีนี้ ได้มีการมอบหมายงานเป็นสามส่วน  ส่วนแรกคือเรื่องของอุปกรณ์ที่ใช้ในวันเกิดเหตุ ส่วนที่สองเรื่องของระบบขั้นตอนของการทำงาน ส่วนที่สามเรื่องของตัวบุคคล ว่ามีส่วนใดที่ทำให้เกิดความประมาทได้หรือไม่ ประกอบกับชุดพนักงานสอบสวน จะเรียกสอบสวนในอีกหลายส่วน ไม่ต่ำกว่า 8 ราย ทั้ง ทางธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักงานใหญ่ (เอสซีบี) ,บริษัท เมก้าแพลนเน็ท จำกัด. , บริษัทที่รับช่วงต่อ และผู้ที่ดูแลระบบทั้งหมด ขณะนี้หลักฐานที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ พนักงานสอบสวนอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะเริ่มต้นจากสัญญาที่มีการทำไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะนำไปสู่การออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป



+++พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้พลตำรวจตรีเจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เดินทางไปสอบปากคำบริษัทที่รับจ้างทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ว่ามีความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ส่วนพนักงานของธนาคารไทยพาณิชย์จะมีความผิดด้วยหรือไม่ ต้องรอการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้สอบไปกว่า20ปากแล้ว



+++สถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ สั่งการให้ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ลงนามให้ผู้กำกับการในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส มาช่วยราชการ เป็นเวลา 30 วัน เนื่องจาก ปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุผู้ก่อความไม่สงบ บุกรุกเข้าไปในโรงพยาบาลเจาะไอร้อง และปะทะกับเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ส่วนกลุ่มคนร้ายบางส่วนมีหมายจับคดีความมั่นคงหลายหมาย กำชับให้ตำรวจในพื้นที่หารือกับกองทัพภาคที่ 4 เพื่อปรับแผนมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ให้เข้มงวดมากขึ้น



+++ความคืบหน้าการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ผบ.ตร. กล่าวว่าขณะนี้ได้สั่งย้ายตำรวจกว่า 100 นายที่พบว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพื่อลดความกังวลของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งจากนี้ก็จะมีการคุมความประพฤติและตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่หากพิจารณาแล้วว่าจะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลอีก ก็จะให้โอกาสกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ไม่กังวลเรื่องกำลังตำรวจในพื้นที่ที่อาจลดน้อยลง เพราะต้องเลือกผลประโยชน์ของประชาชนมาก่อน



+++พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ระบุว่าได้รับรายงานเบื้องต้นเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงเข้าภายในวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐมแล้ว สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมและตำรวจภูธรภาค 7 เร่งสืบสวน ส่วนตัวเชื่อว่า เป็นการก่อเหตุเนื่องจากเรื่องส่วนตัว โดยไม่ได้มีความประสงค์สร้างความสูญเสียต่อชีวิต แต่ขณะนี้ยังคงไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มใด และนำอาวุธปืนมาจากที่ใด ต้องรอการสืบสวน



+++ พลตำรวจตรีปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวงที่เรียกรับส่วยจากรถบรรทุก ว่าได้สั่งกักขัง 7 วัน เนื่องในความผิดในการตั้งด่านลอย ส่วนจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ต้องรอการสอบสวนเพิ่มเติม



 



 

ข่าวทั้งหมด

X