+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ประเทศเบลเยียมว่า โฆษกสำนักงานอัยการของเบลเยียม แถลงว่า ปฏิบัติการร่วมเบลเยียม-ฝรั่งเศสเพื่อต่อต้านก่อการร้ายด้วยการบุกเข้าตรวจค้นอพาร์ตเมนต์ที่พักแห่งหนึ่งในเขตฟอเรสต์ทางใต้ของกรุงบรัสเซลส์ เนื่องจากสงสัยว่าอาจมีผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายโจมตีกรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 13พ.ย.ปีที่แล้วหลบอยู่ กำลังตำรวจ ยิงผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตไป1ศพในอพาร์ตเมนต์ แต่ก็มีผู้ต้องสงสัยอีก 1คน หลบหนีไปได้
+++ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บไป4คน โฆษกสำนักงานอัยการยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกยิงเสียชีวิตไม่ใช่นายซาลาห์ อับเดสลาม วัย 26ปีผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในเหตุโจมตีปารีสซึ่งได้หลบหนีมาอยู่ที่บรัสเซลส์หลังก่อเหตุที่ปารีส
+++ตามกันต่อเหตุการณ์ในกรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนี หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ ที่เขตชาร์ลอตเต็นเบิร์ก ทางตะวันตกของกรุงเบอร์ลิน ทำให้คนขับรถ เสียชีวิต 1 ศพ ตำรวจพบว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นขณะที่รถเก๋งคันดังกล่าว กำลังแล่นอยู่บนถนน และได้ดำเนินการตรวจสอบรถเก๋งคันนี้ว่าอาจมีวัตถุระเบิดซุกซ่อนอยู่อีก บีบีซี แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงเบอร์ลินได้บอกกับประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุว่า ให้ปิดประตูหน้าต่างอาคารบ้านเรือน และควรอยู่แต่ในที่พักก่อนการตรวจสอบรถเก๋งคันที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเสร็จสิ้นเรียบร้อย
+++สถานการณ์ซีเรีย นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางไปกรุงมอสโก ของรัสเซีย สัปดาห์หน้าเพื่อพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ปูติน แห่งรัสเซีย รวมทั้งนายเซอร์เกลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเพื่อหารือเรื่องวิกฤตในซีเรีย โดยจะคุยกันว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรได้บ้างเพื่อขับเคลื่อนกระบวนการทางการเมืองให้เดินหน้าต่อไปได้ นายแคร์รี ไม่ได้ระบุวันชัดเจน แต่โฆษกของเขาแถลงกับผู้สื่อข่าวว่าควรจะเป็นหลังวันอังคารที่22มี.ค.ไปแล้วเพราะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะกลับมาจากร่วมคณะประธานาธิบดีบารัคโอบามา แห่งสหรัฐไปเยือนประเทศคิวบา
+++ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาว สหรัฐฯ แถลงว่ามีสัญญาณบ่งชี้เบื้องต้นจากการที่รัสเซียเริ่มถอนกำลังทหารออกจากซีเรีย ซึ่งรัสเซียนั้นสนับสนุนกองทัพภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์อัล-อัสซาด ต่อสู้กับฝ่ายกบฏประกอบกับการเจรจาสันติภาพทางอ้อมซึ่งมีสหประชาชาติเป็นคนกลางที่นครเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์นายแคร์รี กล่าวว่า เป็นการเปิดโอกาสแห่งความเป็นไปได้ที่จะหาข้อยุติด้วยการเจรจาเพื่อยุติสงครามความขัดแย้งในซีเรียที่ยืดเยื้อนาน5ปี
+++กระทรวงมหาดไทยของตุรกี แถลงว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายผู้หญิงซึ่งจุดชนวนระเบิดในรถยนต์ในย่านชุมชนใกล้กับสถานีรถโดยสาร ใจกลางกรุงอังการาเมืองหลวงของตุรกีเมื่อคืนวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต35ศพ ทราบชื่อแล้วว่า เซเฮอร์คาเจีย ดาเมียร์ เกิดเมื่อปี2535 เกี่ยวพันกับกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดในชื่อพรรคคนงานเคอร์ดิสถาน(พีเคเค)ซึ่งเป็นกลุ่มนอกกฎหมาย กระทรวงมหาดไทยของตุรกี กำลังเร่งสืบสวน พร้อมแสดงความเสียใจไปยังญาติพี่น้องของพลเรือนผู้เคราะห์ร้าย
+++จากข้อมูลของสหประชาชาติ พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งในเยเมนมากกว่า 6,000 ศพ ครึ่งหนึ่งเป็นพลเรือน นับตั้งแต่พันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียเริ่มเข้าแทรกแซงในเดือนมีนาคม 2015+++สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานสถานการณ์ในเยเมนว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย กลับกลายเป็นการถล่มตลาดกลางแจ้ง สังหารพลเรือน 41 ศพและบาดเจ็บ 75 คนในจังหวัดฮาจา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเยเมน ซาอุดีอาระเบีย ยังไม่แสดงความคิดเห็น เพียงแต่บอกว่า กำลังตรวจสอบรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
+++เว็บไซต์ไซต์อินเทลลิเจนท์กรุ๊ปของสหรัฐฯ ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มหัวรุนแรงระบุว่ากลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)อ้างความรับผิดชอบว่า อยู่เบื้องหลังการสังหารนายฮาฟิดห์ อับดุล รัสซัก ครูสอนศาสนาชาวมุสลิมชีอะห์วัย 45 ปี ในบังคลาเทศ นับเป็นกรณีการอ้างความรับผิดชอบล่าสุดของกลุ่มไอเอส เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในบังคลาเทศ ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เชื่อว่ากลุ่มไอเอสลงมือก่อเหตุ น่าจะเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่เคลื่อนไหวในประเทศ
+++นายอันเดอร์ส เบห์ริง เบรวิค วัย 37 ปี มือสังหารหมู่ชาวนอร์เวย์ 77 ศพเมื่อปี 2554 ขึ้นศาลในกรุงออสโล เพื่อยื่นฟ้องกล่าวหารัฐบาลว่า ละเมิดอนุสัญญาสหภาพยุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการละเมิดชีวิตส่วนบุคคลของผู้ต้องขัง และการสั่งขังเดี่ยว อนุญาตให้เขาออกนอกบริเวณห้องขังได้เพียงวันละ 1 ชั่วโมง เขาเปรียบเทียบสภาพการถูกกักขังในเรือนจำว่า เป็นการลงโทษโดยการทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม ศาลนัดนายเบรวิคเข้าให้การต่อศาลในวันนี้ หากศาลเห็นว่าสภาพการกักขังนายเบรวิค เข้มงวดมากเกินไปจนทำให้เป็นผลร้ายต่อสภาพจิตใจและร่างกาย และละเมิดสิทธิ์ของผู้ต้องขัง ศาลอาจจะพิจารณาผ่อนคลายข้อจำกัด
+++นางคริสทิน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ย้ำว่า ลาวจะต้องปฏิรูปอย่างจริงจังเพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว พร้อมแสดงความพอใจแนวโน้มเศรษฐกิจของลาว แต่การที่ประเทศรายได้ต่ำจะรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคในช่วงเปลี่ยนผ่านระยะกลางได้ จะต้องมุ่งเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เศรษฐกิจที่เปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดโลก การปฏิรูปสำคัญควรเป็นการลงทุนด้านการศึกษา การยกมาตรฐานการครองชีพ การออกแบบการบริหารราชการที่มีประสิทธิภาพ การสะสมทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และการพัมนาระบบการเงิน เศรษฐกิจลาวขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 7.4 แต่ประชาชน 6.4 ล้านคนได้รับประโยชน์ไม่ทั่วถึง ยังมีความยากจนอยู่ เศรษฐกิจที่เติบโตส่วนใหญ่เป็นผลจากการลงทุนจำนวนมหาศาลจากต่างชาติโดยเฉพาะจากจีน