*นายกฯยอมไม่ได้ให้ปท.เป็นแบบเดิม ตอกพวกให้ข่าวต่างประเทศหวังเล่นงานรบ.*

การส่งข้อเสนอการปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในส่วนของแม่น้ำ 4สายให้กับ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าว หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ได้รส่งข้อเสนอให้ กรธ.แล้ว ซึ่งมีประมาณ 4-5ประเด็น ทั้งเรื่องสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สรรหา และเรื่องการทำประชามติ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพราะเกรงว่าถ้าพูดไปเดี๋ยวจะไม่ตื่นเต้น และเป็นประเด็น

ส่วนกรณีที่นาย มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ไม่เข้าร่วมประชุมแม่น้ำ 4สายนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า ส่วนตัวไม่ได้มีการเชิญตั้งแต่แรกแล้ว เนื่องจากนายมีชัย มีหน้าที่เป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ

ส่วนจะให้มีการบัญญัติใส่เรื่อง สว.สรรหาลงไปใน รธน.หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นหน้าที่ของทาง กรธ.ที่จะเป็นผู้พิจารณา แต่ข้อเสนอที่ส่งไปนั้น หากจะมองว่าเป็นการเสียประโยชน์  ส่วนตัวไม่กลัว ถ้าไม่ผ่านก็จะกลับมาร่างใหม่ เพราะส่วนตัวมีอำนาจในการดำเนินการอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ มีเหตุผลเพราะทำเพื่อให้บ้านเมืองสงบ โดยไม่มีเจตนาที่จะสืบทอดอำนาจ และจะไม่เขียนให้ สว.มีอำนาจในการถอดถอน หรือ ปลดบุคคลใดทั้งนั้น   โดยนายกรัฐมนตรี ย้อนถามกลับว่าจะให้สถานการณ์กลับไปสู่ประชาธิปไตยแบบเดิมหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวยอมไม่ได้  ส่วนตัวไม่ชอบให้บุคคลใดไปพูดขยายความในต่างประเทศ เพราะมีบางคำถามที่บุคคลนั้นจะไม่ตอบ แต่จะตอบแต่คำถามที่จะเล่นงานรัฐบาล  ดังนั้นขอให้สื่อควรนำเสนอทุกประเด็นอย่างรอบด้าน

สำหรับ นเกิดในปีนี้ของนายกรัฐมนตรี ที่จะตรงกลับวันที่ 21มี.ค. นี้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ไม่ต้องการได้ของชวัญอะไร แต่ต้องการ ให้ประชาชนมีความสุข  พร้อมพูดหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวว่าวันเกิดของตนเองมีอีกวัน คือ วันที่ 22พ.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดของ คสช.

ส่วนสถานการณ์ในประเทศเมียนมาร์ ที่วันนี้ได้มีการแต่งตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถือว่าการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นของประชาชนและเป็นไปตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งส่วนตัวก็ยินดี ขณะที่ความสัมพันธ์ของ 2ประเทศก็อยู่ในสถานการณ์ที่ดีอยู่แล้ว

หลังจากการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรี พร้อม ครม.ได้เดินทางไปเยี่ยมชมร้านจำหน่ายสินค้า ตลาดนวัตกรรม เพลินพลังงานงานวิจัยขายได้ ที่บริเวณตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทางกระทรวงพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติได้ร่วมกันจัดขึ้น