ผู้อพยพนับพันคนออกเดินทางออกจากค่ายผู้อพยพในกรีซไปยังมาซิโดเนีย โดยที่จะต้องเดินเท้าผ่านโคลน และแม่น้ำที่ท่ามกลางฝนตกต่อเนื่อง โดยมีอยู่หลายร้อยคนที่เมื่อไปถึงก็ถูกตำรวจมาซิโดเนียควบคุมตัวไว้ ทั้งเตรียมจะผลักดันกลับมากรีซอีกครั้ง เนื่องจากมาซิโดเนียประกาศปิดพรมแดนตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โฆษกตำรวจมาซิโดเนีย เปิดเผยด้วยว่าในกลุ่มผู้ที่ถูกจับกุมและถูกส่งตัวกลับ ยังมีผู้สื่อข่าวรวมอยู่ด้วยอย่างน้อย 20 คนที่เดินทางมากับผู้อพยพ
ทั้งนี้ผู้อพยพประมาณ 1,000 คนที่มีทั้งเด็กและสตรี ออกเดินเท้ามาจากค่ายอิโดเมนีในกรีซ เนื่องจากค่ายแห่งนี้มีผู้ที่พักอยู่อย่างแออัดคือประมาณ 14,000 คน ส่วนใหญ่มาจากซีเรียและอิรัก พวกเขาต้องเสี่ยงตายข้ามแม่น้ำ และต้องเดินเท้าถึง 6 กิโลเมตร ไปถึงจุดที่ไม่มีรั้วกั้นใกล้หมู่บ้านฮามิโล และจุดผ่านแดน
ด้านตำรวจมาซิโดเนีย รายงานเพิ่มเติมว่าเมื่อวันจันทร์พบศพชาย 2 คนและสตรี 1 คนที่แม่น้ำซูวา โดยทั้งหมดเป็นผู้อพยพที่พยายามข้ามแม่น้ำ ส่วนตำรวจกรีซ ยืนยันว่าแจ้งต่อผู้อพยพที่พยายามจะเดินทางไปมาซิโดเนียแล้วว่า เป็นการข้ามแดนที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากการปิดพรมแดน แต่เมื่อผู้อพยพยืนยันต้องการเดินทาง เจ้าหน้าที่ก็ให้ความคุ้มครองไปจนถึงจุดผ่านแดน อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ผู้อพยพพบว่าอีกฝั่งหนึ่งมีตำรวจของมาซิโดเนียรออยู่ก็เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้น ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพได้ส่วนหนึ่ง โดยส่งผู้อพยพ 19 คนที่ได้รับความช่วยเหลือไปเข้าพักที่ศูนย์ผู้อพยพในมาซิโดเนีย และอีก 3 คนถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล ทั้งเตือนว่า การที่ผู้อพยพยังคงเดินทางมากรีซ โดยไม่มีหนทางไปต่อ ยิ่งทำให้เกิดความตึงเครียด และความสูญเสีย จึงเรียกร้องให้ยุโรปเพิ่มความร่วมมือในการรับช่วยเหลือผู้อพยพมากขึ้น
..
utv.ie