+++พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยถึง การรายงานรายชื่อตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลว่า ขณะนี้ได้รับรายงานมาจากหน่วยงานต่างๆ แล้วประมาณ 200 นาย ในจำนวนนี้ได้เชิญนายตำรวจยศนายพลเข้ามาพูดคุย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการให้ออกจากพื้นที่ก่อน และดำเนินการทางวินัย และอาญา ส่วนหน่วยงานใดที่ยังไม่ปรับปรุงข้อมูลรายชื่อกลุ่มผู้มีอิทธิพล ได้สั่งการให้ต้องรายงานผลความคืบหน้าครั้งสุดท้ายภายในวันนี้
+++พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวถึงกรณีที่มีนายตำรวจต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมกับขบวนการค้ายาเสพติด เห็นว่าผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่นี้มีความเสี่ยงสูง และถูกร้องเรียนว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลมาต้องมาแยกแยะว่าตำรวจนายนั้นมีความผิดจริงหรือไม่ ยืนยันว่าไม่มีความกังวลถึงการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในช่วงนี้ ตามที่มีกระแสข่าวว่าเป็นการโจมตีผู้มีความเห็นต่างกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และรัฐบาล เนื่องจากการปราบปรามผู้มีอิทธิพลเป็นนโยบายที่ทำมาทุกยุคทุกสมัย
+++ส่วนการตรวจค้นบ้านพักของผู้มีอิทธิพล ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 มอบหมายให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตามเป้าหมาย พร้อมพล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.กองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ ตำรวจ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบหลังจากพล.ต.ศรีศักดิ์ พูนประสิทธิ์ ผบ.กองกำลังบูรพา ตำรวจสภ.ตาพระยา จ.สระแก้ว นำกำลังพร้อม นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.สระแก้ว เข้าตรวจค้นพื้นที่ที่เชื่อว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพล ก่อนจะพบสิ่งผิดกฎหมาย พล.ต.ท.ศรีวราห์ เดินทางเข้าตรวจสอบ 3 จุด ได้แก่ จุดที่1 บ้านเลขที่216 หมู่ 1 ต.ทับเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยมีนายพลาย มั่นปืน หรือ กำนันพลาย นำค้น พบอาวุธปืนพกสั้น 1กระบอก กระสุน 4 นัด อาวุธปืนยาว 5กระบอก กระสุน5 นัด เลื่อยไฟฟ้า 1ตัว วิทยุสื่อสาร อาวุธมีด 1เล่ม ตำรวจต้องตรวจสอบว่าปืนดังกล่าวมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้พบหญิงสาวแรงงานในบ้านดังกล่าว เป็นคนกัมพูชา แต่สวมบัตรประชาชนคนไทย ชื่อนางพิม มากกว่าวงศ์ เจ้าตัวยืนยันว่าบัตรดังกล่าวเป็นเอกสารปลอมโดยการสวมบัตร จึงแจ้งข้อหาปลอมเอกสารราชการ
+++จุดที่ 2 เป็นอาคารชั่วคราวที่ใช้ในการแบ่งถ่านหินในถุง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบแรงงานชาวกัมพูชาผิดกฎหมายจำนวน 2 คน และมีแรงงานเด็กอายุต่ำกว่า18 ปี อีก1คน ตรวจสอบมีการต่อไฟฟ้ามาจากบ้านหลังหนึ่ง จึงขยายผลจนไปยังจุดที่ 3 จุดที่3 พบเป็นอาคารมีป้ายปิดว่า โชคองอาจ เลขที่ิ 318 หมู่5 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา ซึ่งมีนายองอาจ โอชาเป็นเจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของอาคารแบ่งแยกถ่านหินชั่วคราว ทั้งนี้มีการกระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจค้นกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อ.ตาพระยาและอ.คลองหาด จ.สระแก้ว รวมทั้งหมด 12 จุด ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมของกลางที่ได้มา
+++พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวถึงกรณีที่พลเรือเอกพะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยื่นหนังสือให้พนักงานสอบสวนทบทวนและเพิกถอนหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า มอบหมายให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ รับผิดชอบด้านคดีนี้ และไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
+++พล.ต.ต.ทรงพล วัฒนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจทางหลวง มีพฤติกรรมเรียกรับส่วยรถบรรทุก ว่าจะออกภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้ หากมีความผิดจริงก็จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัยร้ายแรง หากมีความผิดก็จะมีโทษรุนแรงถึงขั้นไล่ออก และได้ให้มาช่วยราชการที่ ศปก.กองบังคับการตำรวจทางหลวง นอกจากนี้คณะกรรมการจะเรียกตัวคู่กรณีที่เป็นคนจ่ายส่วยมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการด้วย ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
+++นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ส่งร่างพระราชบัญญัติความสงบเรียบร้อยการทำประชามติมาแล้ว คาดนำเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) สัปดาห์หน้า จากนั้นเตรียมเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ต่อไป
+++กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ไปบรรยายที่สถาบันนโยบายโลก (World Policy Institute) ณ นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์การบริหารประเทศและเศรษฐกิจไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลที่สามารถออกมาวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ก็ต้องคำนึงว่าควรออกมาพูดหรือไม่ การพูดในครั้งนี้จะไม่สามารถส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลได้ เพราะต่างประเทศมีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย เห็นได้จากการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากทุกประเทศ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องติดต่อไป เพื่อให้นายทักษิณหยุดออกมาแสดงความคิดเห็น เพราะได้พูดผ่านสื่อไปแล้วหลายครั้ง
+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย เปิดตลาดภาคเช้าบวก 7.47 จุด ตอบรับปัจจัยบวกเรื่องธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตาม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) จาก 60,000 ล้านยูโร เป็น 80,000 ล้านยูโร รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับร้อยละ 0 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จากร้อยละ 0.05 ทำให้มีแรงซื้อเก็งกำไร รอลุ้นสภาพคล่องที่จะไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเกิดใหม่ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดที่1,386.53จุด เพิ่มขึ้น 7.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,112.84ล้านบาท แต่ต้องระวัง มีโอกาสที่ดัชนีจะผันผวน เพราะตลาดรับรู้ปัจจัยบวกไปแล้วค่อนข้างมาก และราคาน้ำมันดิบโลกยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดี
+++ปิดตลาดครึ่งวันเช้า ที่ระดับ 1,391.55 จุด เพิ่มขึ้น 12.49 จุด มูลค่าซื้อขาย รวม 25,649.66 ล้านบาท
+++ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,272.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สมาคมค้าทองคำ รายงานการปรับเปลี่ยนราคาทองคำ ช่วงแรกว่า ราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 21,200.00 บาท ขายออกบาทละ 21,300.00 บาท ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 20,890.48 บาท ขายออกบาทละ 21,700.00 บาท ราคาปรับขึ้น 400 บาท เมื่อเทียบราคาปิดวานนี้
+++อัยการรัฐเซาเปาโลของบราซิล ยื่นฟ้องศาลให้ดำเนินคดีอดีตประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ในความผิดข้อหาฟอกเงินและแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ โดยมีหลักฐานชัดเจนว่า นายซิลวา และครอบครัวได้ผลประโยชน์มหาศาลจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีการทุจริตและส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายพันครอบครัว ขณะที่อดีตประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา บทลงโทษทั้งสองข้อหาอาจถึงขั้นจำคุกสูงสุดเป็นเวลานานถึง 13 ปี