*ธาริต ตั้งทนายสู้คดีรวยผิดปกติ/เร่งหาอาชีพให้เกษตรกรสู้ภัยแล้ง/ออมสินเตรียมงบฯกระตุ้นอสังหาฯ*

10 มีนาคม 2559, 19:52น.


+++หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ร่ำรวยผิดปกติ 346 ล้านก่อนส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องต่อศาลเพื่อยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ล่าสุด นายธาริต ส่งข้อความถึงสื่อมวลชนชี้แจงต่อมติ พร้อมตั้งคำถามต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าวิธีคิดคำนวณทรัพย์สินเป็นไปตามหลักการทางบัญชีที่คนปกติเขาใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันหรือไม่ การปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และได้ปฏิบัติเท่าเทียมกับปฏิบัติต่อบุคคลอื่นๆ หรือไม่ จากนี้ จะแต่งตั้งทนายความขึ้นต่อสู้ในชั้นศาลยุติธรรม และหากในที่สุดศาลตัดสินว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ ป.ป.ช. มีมติแล้ว ถึงตอนนั้น ป.ป.ช. จะรับผิดชอบต่อความไม่เป็นธรรมที่ได้กระทำหรือไม่ อย่างไร



+++นอกจากนี้ นายธาริต ชี้แจงว่า อนุกรรมการ ป.ป.ช. ใช้วิธีคิดคำนวณรายได้จากเงินเดือน และค่าตอบแทนเฉพาะการรับราชการของนายธาริตกับภรรยาเท่านั้น ไม่ได้ตรวจสอบถึงรายได้จาก การทำธุรกิจเช่น การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ การซื้อขายที่ดิน และการลงทุนในทรัพย์สินอื่นๆ เช่น ทองคำ และอัญมณี ซึ่งในปัจจุบันการมีรายได้จากธุรกิจต่างๆ ของข้าราชการเป็นเรื่องปกติ ที่กระทำได้โดยชอบ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีพยานหลักฐานหรือพฤติการณ์ใดๆ เลยที่แสดงว่านายธาริต มีทรัพย์สินเหล่านั้น หรือได้มาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบหรือโดยไม่ถูกต้อง



+++สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่แต่ละจังหวัด นายสมชาติ สร้อยทอง รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับรายงานสถานการณ์จากพาณิชย์จังหวัดแต่ละภูมิภาคว่าปัญหาภัยแล้งมีความรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงขณะนี้ ตามนโยบายรัฐบาลให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดเร่งจัดอบรมให้ความรู้เกษตรกร เพื่อหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย อายุสั้น เช่น พืชตระกูลถั่ว และพืชสมุนไพร มาทดแทน เพื่อลดการใช้น้ำและให้เกษตรกรยังคงมีรายได้ในช่วงภัยแล้ง โดยตั้งเป้าให้ความรู้เกษตรกรกว่า 2 แสน 25,000 ราย  882 อำเภอทั่วประเทศ  ซึ่งดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 81 คาดว่าจะครบภายในสิ้นเดือนนี้



+++พาณิชย์จังหวัดบางจังหวัด รายงานว่าพื้นที่บางแห่งขาดน้ำและแล้งหนักจนไม่สามารถปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนได้ เนื่องจากปริมาณน้ำที่น้อยเกินไปบางพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำ จึงส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาผลิตสินค้าชุมชนเพื่อจำหน่าย สร้างรายได้ไปก่อน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเข้ามาดูแลเรื่องการเจาะหาน้ำบาดาล เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้ต่อไป ยอมรับว่าราคาผักโดยรวมจะเริ่มแพงขึ้นจากปัญหาภัยแล้งและของมีน้อยถือเป็นไปตามกลไกตลาดที่เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนมาก ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย กรมการค้าภายใน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะเชื่อมโยงผลผลิตจากแหล่งเพาะปลูกมาจำหน่ายให้ประชาชน รวมทั้งยังจัดงานธงฟ้าทั่วประเทศ เพื่อดูแลค่าครองชีพประชาชนด้วย



+++การกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 10-13 มี.ค. มีการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 34 ภายใต้แนวคิด โค้งสุดท้าย ลดเกินรัฐ ลุ้นรับล้าน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมกล่าวว่า ปัจจัยบวกสำคัญสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ ได้แก่ การที่ภาครัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องผ่านมาตรการต่าง ๆ และเร่งก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมขนส่งทั้งระบบรางและระบบถนน เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง โครงการถนนเชื่อมต่อทางด่วนศรีรัชไปถนนกาญจนาภิเษก รวมทั้งบ้านประชารัฐก็เป็นโครงการที่สนับสนุนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี คาดว่า เรื่องบ้านประชารัฐจะเข้าคณะรัฐมนตรี( ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์



+++นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารจัดสรรวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้ให้ประชาชนทั่วไป สำหรับซื้อบ้านใหม่หรือบ้านมือสองก็ได้ แต่ต้องเป็นบ้านหลังแรก รวมทั้งสามารถกู้เพื่อซ่อมแซมบ้าน  สำหรับหลักเกณฑ์ปล่อยสินเชื่อแบบมาก่อนได้ก่อน เมื่อหมดวงเงินถือว่าสิ้นสุดโครงการ รายละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ไม่จำกัดรายได้ผู้กู้ แต่สัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ผู้กู้ต้องไม่เกินร้อยละ 50 กำหนดอัตราดอกเบี้ยเป็นขั้นบันไดเฉลี่ยร้อยละ 3-4 ในช่วง 6 ปีแรก ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 30 ปี หลักเกณฑ์ปล่อยกู้โครงการบ้านประชารัฐที่ชัดเจนต้องรอ ครม.อนุมัติ



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดที่ 1,379.06 จุด ลดลง 11.60จุด มูลค่าการซื้อขาย  49,489.90 ล้านบาท คืนนี้นักลงทุนรอจับตารอผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เข้ามากระตุ้นการเคลื่อนไหวของตลาดทุนทั่วโลก มีการคาดหมายว่า อีซีบี ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม นักวิเคราะห์กว่าร้อยละ 50 เชื่อมั่นว่าจะมีทิศทางเชิงบวกแน่นอน



+++ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 210.15 จุด 16,852.35 จุด



+++ฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 11.84 จุด 19,984.42 จุด



+++การประชุมติดตามการดำเนินการตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตและประกาศสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ในประเด็นมาตรฐานทางจริยธรรม จรรยาบรรณ และความรับผิดชอบทางสังคม ร่วมกับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)ด้านคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า เมื่อเกิดปัญหาด้านจริยธรรมของสื่อหรือกระแสกดดันสังคมผ่านโซเซียลมีเดีย ให้ช่องดำเนินการกำกับตรวจสอบกันเองก่อน และถ้าร้องเรียนมาที่สำนักงานกสทช.จะส่งเรื่องไปยังช่องเพื่อให้พิจารณาแก้ไขและหากยังไม่ได้ข้อสรุป ก็ส่งต่อให้องค์กรวิชาชีพพิจารณาและหากองค์กรวิชาชีพยังไม่สามารถกำกับดูแลได้อีก คงเป็นหน้าที่กสทช.จะช่วยพิจารณา โดยหากเป็นประเด็นสำคัญจะต้องพิจารณาภายในเวลา3-5 วัน ถ้าเป็นประเด็นที่ไม่ละเอียดอ่อนอาจใช้เวลา 10-15วันพิจารณาให้ได้ข้อสรุป



+++เจ้าหน้าที่ไนจีเรีย เปิดเผยเหตุอาคารพักอาศัย 5 ชั้นที่อยู่ระหว่างก่อสร้างถล่มลงมาในย่านธุรกิจเลกกี รัฐลากอส ศูนย์กลางการค้าทางตะวันตกเฉียงใต้ของไนจีเรีย มีผู้เสียชีวิต 34 ศพ เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังเจ้าของอาคาร ต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ หลังเกิดเหตุ มีการปิดกั้นบริเวณไม่ให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกบริเวณดังกล่าว สำหรับการค้นหาผู้รอดชีวิตยุติลงเมื่อเวลา 07.20 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้ 13 คน นอกจากนี้ รัฐบาลท้องถิ่น ขอให้เจ้าของและผู้บริหารอาคารเข้ามอบตัวกับตำรวจ หากไม่เข้ามอบตัวอาจจะถูกออกหมายจับ ปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในไนจีเรีย เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มงวดเท่าที่ควร  การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การก่อสร้างเป็นไปอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อาคารหลังนี้ถูกสั่งระงับการก่อสร้างตั้งแต่เดือน ม.ค. เนื่องจาก พบว่ามีการละเมิดกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัย ด้วยการก่อสร้างเพิ่มเติมและพบจุดบกพร่องในส่วนของโครงสร้าง และอาจมีปัจจัยเสริมมาจากฝนที่ตกหนักด้วย



 +++เจ้าหน้าที่ประจำเมืองปาลัตกา รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ กล่าวว่า นางเจมี กิลท์ สตรีอเมริกันวัย 31 ปี นักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนเรื่องการพกพาอาวุธปืน ถูกลูกชายวัย 4 ขวบทำปืนลั่นใส่โดยบังเอิญ บาดเจ็บสาหัส เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนี้อาการทรงตัว ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างออกตรวจความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ สังเกตรถยนต์คันหนึ่งจอดนิ่งและมีผู้หญิงคนหนึ่งในที่นั่งคนขับได้โบกมือขอความช่วยเหลือ มีเด็กชายคนดังกล่าวนั่งอยู่เบาะหลัง ไม่ได้รับอันตราย จากการสอบสวนในเบื้องต้น ตำรวจ คาดว่า เด็กชายอาจจะทำปืนลั่นมาจากเบาะหลัง กระสุนปืนลั่นใส่ที่ด้านหลังของมารดาทะลุช่องท้อง ตำรวจพบปลอกกระสุน และปืนขนาดลำกล้อง .45 ในรถคันนั้นด้วย ขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถสอบปากคำผู้เสียหายเนื่องจากบาดเจ็บสาหัส แต่การตรวจสอบเบื้องต้นตำรวจพบว่าเป็นอาวุธปืนที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ผู้เสียหายก็เคยยืนยันถึงเรื่องนี้ทางเฟซบุคของเธอ เพื่อแสดงความเห็นสนับสนุนเรื่องสิทธิ์การพกพาปืนไว้ป้องกันตัวเอง และมีภาพที่ลงทางเฟซบุคที่เธอเคยสอนลูกชายวัย 4 ขวบให้จับปืนขนาด .22 ด้วย ตามกฎหมายของรัฐฟลอริดา กรณีผู้มีอาวุธปืนที่ถูกกฎหมาย เก็บรักษาหรือบรรจุกระสุนไว้ในปืนแล้วปล่อยทิ้งไว้ในลักษณะที่เด็กสามารถจะหยิบจับมาเล่นได้ถือเป็นความผิดลหุโทษ ตำรวจ ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆจนกว่าจะได้สอบปากคำผู้หญิงคนดังกล่าว



 

ข่าวทั้งหมด

X