การกล่าวหานายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่ำรวยผิดปกติ นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนกรณี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 เสียงว่านายธาริต มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ จึงส่งคำร้องให้อัยการสูงสุดยื่นต่อศาลให้สั่งทรัพย์สินของนายธาริต คู่สมรสและผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 346 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดิน
ด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีนี้ มีประชาชนร้องเรียนว่ามีข้าราชการระดับสูงสร้างบ้านที่เกรงว่าจะรุกล้ำเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ ป.ป.ช.จึงลงพื้นที่ตรวจสอบและพบว่าเจ้าของบ้านคือ ภรรยา ของนายธาริต จากนั้นป.ป.ช.ได้ดำเนินตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายธาริตที่เคยแสดงบัญชีต่อป.ป.ช.ว่ามีรายการดังกล่าวอยู่หรือไม่ ซึ่งไม่พบรายการดังกล่าว จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ จึงตั้งอนุกรรมการไต่สวนรวบรวมพยานหลักฐาน ต่อมาพบพฤติการณ์ยักย้ายแปรสภาพ ซุกซ่อนทรัพย์สินต่างๆ ป.ป.ช.จึงสั่งอายัดไว้ สองครั้ง จำนวน 90 ล้านบาท แล้วได้แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งนายธาริต ได้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ไม่ยอมมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่เข้าใจข้อกล่าวหาของอนุกรรมการไต่สวน และบอกว่าอนุกรรมการไม่ให้ความเป็นธรรม ทั้งนี้ อนุกรรมการได้เปรียบเทียบรายได้ของนายธาริต ซึ่งพบว่ามีทรัพย์สินที่ป.ป.ช.พิจารณาว่าไม่มีที่มาที่ไป และมีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 346 ล้านบาท จึงมีมติชี้มูลความผิดกรณีร่ำรวยผิดปกติ
สำหรับเสียงลงมติชี้มูลความผิดที่เป็นเอกฉันท์จำนวน 7 เสียงนั้น มีกรรมการ 2 คนที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม คือ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ที่ติดภารกิจ และพล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง ที่ขอไม่เข้าร่วมประชุมเนื่องจากทนายความของนายธาริตมีนามสกุลเดียวกับพล.ต.อ.สถาพร จึงเกรงว่าจะมีส่วนได้ส่วนเสีย.