ผู้อพยพลี้ภัยที่ติดค้างอยู่ชายกรีซมาเป็นเวลาหลายวันร่วมการชุมนุม หลังจากที่ประเทศเพื่อนบ้านของกรีซปิดพรมแดน เพื่อไม่ให้ผู้อพยพลี้ภัยใช้เป็นเส้นทาง เดินทางต่อไปยังยุโรปกลาง ทั้งนี้กลุ่มผู้อพยพลี้ภัยประมาณ 500 คนที่ส่วนใหญ่เป็นชาวอัฟกัน เดินเท้าเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตรจากศูนย์พักพิงผู้อพยพลี้ภัยซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเอเนส์ โดยถือแผ่นป้ายข้อความและตะโกนคำขวัญเรียกร้องให้ปฏิบัติกับผู้อพยพทุกคนอย่างเท่าเทียมกันและรับฟังเสียงของผู้อพยพ แต่การเดินเท้าของผู้อพยพกลุ่มนี้มาไม่ถึงที่หมาย เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดไว้กลางทาง ซึ่งสื่อกรีซรายงานว่า ในช่วงหลายเดือนมานี้จัตุรัสวิคตอเรียในกรุงเอเธนส์คือจุดนัดอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มผู้อพยพลี้ภัย ที่ต้องการเดินทางต่อไปยังยุโรปกลางและเหนือ
ทางการกรีซ รายงานว่า ผลจากการที่เพื่อนบ้านปิดพรมแดนในช่วง 3 เดือนมานี้ ทำให้มีผู้อพยพลี้ภัยที่ยังตกค้างอยู่ในกรีซประมาณ 36,000 คน
อย่างไรก็ตาม ทางการมาซิโดเนีย ยินยอมให้ผู้อยพลี้ภัยชาวซีเรีย และ อิรักจำนวนหนึ่งเดินทางข้ามแดนจากกรีซเข้าไปในประเทศได้ แต่ก็ยังมีอีกประมาณ 10,000 คนที่ยังอยู่ที่ค่ายผู้อยพ และฟาร์มใกล้ชายแดน เพื่อรอการเปิดพรมแดนอีกครั้ง ซึ่งอาสาสมัครจิตอาสาที่ทำงานในพื้นที่ระบุว่า ค่ายผู้ลี้ภัยสามารถรับรองผู้อพยพได้ไม่ถึง 2,000 คน ทั้งมีฝนตกในช่วงหลายวันมานี้ ทำให้ต้องย้ายกลุ่มเด็กๆ ที่อยู่ภายนอกเข้ามาที่ค่าย แต่ก็มีหลายคนที่มีอาการป่วย จึงต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ อย่างไรก็ตาม มีการส่งเด็กอย่างน้อย 70 คนไปที่โรงพยาบาลซึ่งอยู่ใกล้เคียง ซึ่งสถานีโทรทัศน์กรีซรายงานว่าเด็กๆ เหล่านี้มีอาการป่วยหลากหลาย
..
F163