*ปปท.-สตง.ประชุมสอบราชภักดิ์/กปปส.นิวยอร์คประท้วงทักษิณ/อดีตคนขับรถซูจี ถูกเสนอชื่อเป็นปธน.เมียนมาร์*

10 มีนาคม 2559, 12:04น.


ข่าวเที่ยงครึ่ง



+++สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ประชุมร่วม สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สรุปผลสอบเพิ่มเติม 3 ประเด็น โครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์  โดยพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสั่งการ เตรียมแถลงผลสอบ หลังเดินทางกลับจากประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด ที่ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ระหว่างวันที่ 12 -16 มีนาคมนี้ พร้อมจะเปิดให้ซักถาม ยืนยัน มีคำตอบที่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้อย่างแน่นอน



+++เพจ "กปปส นิวยอร์ค PDRC NY" ได้เผยแพร่ภาพและคลิปของคนไทยที่อาศัยในสหรัฐอเมริกา รวมตัวกันที่นิวยอร์ค เพื่อมาประท้วงนายทักษิณ ชินวัตร ที่มาบรรยายพิเศษในงาน "สนทนาเป็นการส่วนตัวกับทักษิณ ชินวัตร” (Thaksin Shinawatra in Private Discussion) จัดโดยสถาบันนโยบายโลก (World Policy Institute - WPI) โดยมีการรายงานว่า การนัดชุมนุมดังกล่าวได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว รายงานแจ้งว่า มีผู้พบเห็นนายสุนัย จุลพงศธร อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปนิวยอร์คและรอต้อนรับนายทักษิณด้วย ทั้งนี้หลังจากที่นายทักษิณได้บรรยายเสร็จสิ้น ได้หลบกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงออกไปใช้ประตูขนของ แทนการออกมาประตูหน้า แต่ก็ไม่พ้นสายตาของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ตามมาขับไล่



++++ส่วนเนื้อหา ที่ นายทักษิณ บรรยายพิเศษที่นครนิวยอร์ก ในงาน "สนทนาเป็นการส่วนตัวกับทักษิณ ชินวัตร” (Thaksin Shinawatra in Private Discussion) จัดโดยสถาบันนโยบายโลก (World Policy Institute - WPI) ระบุว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดของไทยจะไม่สามารถวางโครงสร้างพื้นฐานในเชิงสถาบัน ที่จะส่งเสริมให้มีการลงทุน การผลิต และความร่วมมือระหว่างไทยกับต่างประเทศได้ เนื่องจากอาจเปิดช่องให้มีการแทรกแซงอำนาจฝ่ายบริหาร และ นิติบัญญัติ โดยอำนาจพิเศษของวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง และฝ่ายตุลาการ ข้อสำคัญที่พวกเราต้องพิจารณาคงเป็นเรื่องที่ว่า อำนาจตุลาการจะล่วงล้ำอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหารหรือไม่ เพื่อให้รัฐบาลสามารถบริหารเศรษฐกิจของประเทศในยุคที่เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว หวังว่าคงจะไม่มีการใช้อำนาจตุลาการที่เกินกว่าความจำเป็นอีกในอนาคต กรณีศึกษาในประเทศต่างๆ ได้แสดงให้พวกเราเห็นว่า การใช้อำนาจพิจารณาทบทวนโดยศาล โดยไม่ได้มีการถ่วงดุลและตรวจสอบ อาจกลายเป็นการใช้อำนาจอย่างไม่เหมาะสมและเป็น “ยุทธวิธีเตะถ่วงงาน” จนสุดท้ายก่อให้เกิดอุปสรรคในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ”



+++ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยยังชะลอตัว เนื่องจากขาดกำลังซื้อ เพราะเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว ทำให้คำสั่งซื้อจากตลาดโลกลดลง ซึ่งภาคเอกชนไทยปรับตัวและระมัดระวังด้วยการดูแลสินค้าคงคลังไม่ให้สูงเกินไปและไม่ก่อหนี้เพิ่ม ซึ่งเอกชนไทยปรับตัวรับกับสถานการณ์ได้ดี ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่ต้องกังวลและปล่อยให้เอกชนดำเนินธุรกิจไปตามปกติ ส่วนสิ่งที่รัฐบาลต้องดูแล คือ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ทั้งข้าวและยางพารา ซึ่งการให้เงินช่วยเหลือโดยตรงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่รัฐควรระมัดระวังมาตรการกระตุ้นการบริโภคในภาวะเศรษฐกิจขาลง โดยเฉพาะการกระตุ้นการซื้อที่อยู่อาศัย หรือการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่จะส่งผลให้เกิดการก่อหนี้เพิ่ม ทำให้หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น



ส่วนการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงขาลงต้องใช้อย่างฉลาดและเหมาะสม เพราะหากใช้ในทางที่ผิดจะเกิดผลลบมากกว่า ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจขาลงควรกระตุ้นให้เอกชนลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ที่มีเทคโนโลยีสูงเตรียมพร้อมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อการผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของตลาดยุคใหม่  ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ให้จับตาสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่เป็นปัจจัยหลักในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หากราคาน้ำมันยังไม่สูงขึ้นเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ยาก



+++พรรคเอ็นแอลดีเสนออดีตคนขับรถของอองซาน ซูจี นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีเมียนมาร ส่งสัญญาณเจ้าของโนเบลสันนิภาพเตรียมปกครองประเทศผ่านนอมินี คิน ซาน หล่าย ส.ส.พรรคเอ็นแอลดี เสนอชื่ออู ทิน จ่อ ในการเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นประธานาธิบดีระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม



ทั้งนี้ ทิน จ่อ วัย 69 อดีตคนขับรถของซูจี เป็นเพื่อนกับนางตั้งแต่สมัยเป็นเด็กนักเรียน ทุกวันนี้ เขาดูแลมูลนิธิแห่งหนึ่งของผู้นำพรรค กระบวนการเลือกผู้นำทดแทนประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ซึ่งกำลังจะพ้นวาระในปลายเดือนมีนาคม ยังไม่เสร็จสิ้น สมาชิกสภาล่างและสภาสูงจะเลือกผู้ท้าชิงจากของแต่ละสภา ขณะที่กองทัพก็จะเสนอผู้ท้าชิงจากฝ่ายทหารคนหนึ่ง สภาของเมียนมาร์มีทหารซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้งครองโควต้าเก้าอี้ในสัดส่วนหนึ่งในสี่ ขณะที่พรรคเอ็นแอลดีมีเสียงข้างมากในสภา



ซูจีเคยประกาศที่จะบริหารประเทศโดย “อยู่เหนือประธานาธิบดี” เพราะรัฐธรรมนูญที่เขียนโดยกองทัพห้ามนางดำรงตำแหน่งแมพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน

ข่าวทั้งหมด

X