*นายกฯเปิดประชุม ACD พร้อมถ่ายทอดศก.พอเพียง เดินหน้าลต.ปีหน้าตามโรดแมพ*

 ความร่วมมือกันของประเทศในแถบเอเชีย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชียหรือ ACD ครั้งที่ 14 ว่า การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายที่สำคัญคือการสร้างความเข้มแข็งในประเทศสมาชิกในทวีปเอเชียและในประชาคมโลก โดยต้องใช้หลักการการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจลดความหวาดระแวง และสร้างผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกันเพื่อให้ประเทศสมาชิก เกิดความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน รวมถึงภูมิภาคเอเชียต้องมองปัญหาในปีที่ผ่านมา เพื่อใช้กำหนดกรอบการพัฒนาร่วมกันในอนาคต และแสวงหาความเหมือนในความแตกต่างของแต่ละประเทศ เช่นเดียวกับในประเทศไทยที่คงไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ แต่ก็สามารถอธิบายให้ทุกคนเข้าในการทำงานของภาครัฐได้ โดยยึดหลักนโยบายประชารัฐให้ประชาชนมีความสุขอย่างพอเพียงและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่ากลุ่มประเทศสมาชิกที่อยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือเอเชีย (เอซีดี)  ที่มีประชากร 4,300ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการค้าขาย 6ล้านล้านดอล์ลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถ้าจับมือกันจะเป็นตลาดใหญ่ของโลกแต่จะต้องก้าวไปพร้อมๆกัน แต่มุ่งหวังให้ประเทศที่พัฒนาแล้วเจริญเติบโตเพียงประเทศเดียวไม่ได้ เพราะปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำจะนำมาซึ่งความขัดแย้งกลายเป็นปัญหาใหญ่ของโลกในขณะนี้

ส่วนความร่วมมือในกรอบอาเซียนนั้นไม่อยากให้พูดว่าไทยเป็นศูนย์การของอาเซียน แต่อยากให้มองว่าไทยอยู่ในจุดภูมิศาสตร์ที่อยู่ตรงกลาง แต่ที่สำคัญคือต้องสร้างให้แต่ละประเทศ เป็นศูนย์กลางในด้านต่างๆตามศักยภาพ

นายกรัฐมนตรีกล่าววว่า ตลอด40 ปีที่ผ่านมาไทยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลักความพอประมาณ มีเหตุมีผลสนับสนุน แบ่งปันและมีภูมิคุ้มกันที่ดี ซึ่งไทยยินดีถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับประเทศที่สนใจ และในขณะนี้ไทยกำลังก้าวไปสู่การวางแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้วย เพื่อวางอนาคตให้ประเทศ ที่ต้องทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี ชุมชนเข้มเข็ง ซึ่งปัญหาใหญ่ของภูมิภาคคือปัญหาด้านสาธารณสุขซึ่งจะต้องทำให้ประชาชนเข้มแข็งด้วยตนเองเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต

นายกรัฐมนตรี ยังได้ยืนยันต่อที่ประชุมถึงสถานการณ์การเมืองไทยว่าจะดำเนินการตามโรดแมปที่วางไว้ เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งภายในปีหน้า โดยจะไม่เข้าไปก้าวก่ายการบริหารงานของรัฐบาลชุดใหม่แต่จะมีกลไกที่ให้รัฐบาลใหม่ปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติไม่เช่นนั้น นักการเมืองก็จะดำเนินการตามนโยบายอย่างเดียว ซึ่งจะทำให้การบริหารประเทศชะงัก เช่นเดียวกับสิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ เอซีดี ที่จะต้องมีความเชื่อมโยงกันทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตรกรรมรวมทั้งการเพิ่มมูลค่าสินค้าของแต่ละประเทศ หลังพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 14 นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล โดยไม่ให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนแต่อย่างใด