*จี77ชี้ไทยไม่เหมือนปท.อื่น/พะจุณณ์พบตร.วันนี้ /รอจัสมินแจงซื้อหุ้นคืน/เพิ่มสต๊อกน้ำดื่ม*

10 มีนาคม 2559, 07:59น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++การประชุมผู้ทรงคุณวุฒิของกลุ่มประเทศจี 77 นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า  มีผู้ทรงคุณวุฒิท่านหนึ่งที่เข้าร่วมการประชุมได้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารัฐบาล มีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาลที่ตกต่ำ แต่เมื่อมีรัฐบาลทหารธรรมาภิบาลกลับสูงขึ้นในสายตาของผู้คนในเอเชีย ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกเพราะรัฐบาลทหารที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องความโปร่งใส และคนไทยควรจะรับรู้ว่าไทยมีความแตกต่างกับชาติอื่นๆ คนไทยควรจะภูมิใจในสิ่งนี้ สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)เรื่องธรรมาภิบาลที่ต้องทำให้มีความชัดเจนทั่วทั้งประเทศ รวมถึงสอดรับกับจากการจัดอันดับดัชนีความทุกข์ของบลูมเบิร์กที่พบว่าประเทศไทยมีความสุขทางเศรษฐกิจมากที่สุด เพราะมีความพอเพียง มีความโปร่งใสและคุณธรรมในระดับสูง ทั้งนี้ไทยยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานการพัฒนาที่ยั่งยืนในอาเซียนกับยูเอ็น และพยายามรวบรวมข้อมูล และจะเร่งทำทุกอย่างให้เต็มที่ก่อนการประชุมสหประชาชาติในเดือนกันยายน เพื่อส่งมอบตำแหน่งให้ประธานจี 77 คนใหม่



+++ที่ประชุมได้ยกตัวอย่างเชิงเปรียบเทียบเกี่ยวกับ ผลสำรวจความคิดเห็นความเห็นของประชาชนในการบริหารประเทศในช่วง 1 ปี 6 เดือน ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ของสวนดุสิตโพล ที่ได้ถึงร้อยละ 73 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งตามหลักมาตรฐานสากลระดับที่เกินร้อยละ 65 ถือว่าดีมาก แต่การที่นายกรัฐมนตรีได้รับเสียงที่มากกว่านี้แสดงว่าการบริหารของรัฐบาลที่ผ่านมาดำเนินการในทิศทางที่ดีขึ้น และเชื่อว่าหากประเทศเป็นเอกภาพมากกว่านี้คะแนนก็จะสูงขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี เปรียบเทียบว่า ถึงแม้จะมีการร้องเรียนหรือ การโวยวายจากคนที่ถูกควบคุมตัวเพียงไม่กี่คน หากเทียบกับคนกลุ่มใหญ่ในประเทศกว่า 60 ล้านคนที่พอใจ และไม่ได้ออกมาเรียกร้อง ก็ทำให้ทราบคำตอบในตัวอยู่แล้ว



+++วันนี้   ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา "พะจุณณ์" วันนี้ ในข้อหาหมิ่นประมาทและผิดพ.ร.บ.คอมพ์ หลังส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันไลน์ กล่าวหา สตช. ซื้อขายตำแหน่ง พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ว่า ได้มีการออกหมายเรียกพล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีม ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ในวันนี้ (10 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ส่วนจะมีมวลชนมาให้กำลังใจ พล.ร.อ.พะจุณณ์นั้น รองโฆษกตร. กล่าวว่า ทางตำรวจท้องที่มีการวางมาตรการดูแลอยู่แล้ว โดยส่วนตัวไม่กังวลว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้น เพราะทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย



++++พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีการชุมนุมทางการเมืองของพลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธอ้าย อดีตแกนนำกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย เมื่อวันที่25พฤศจิกายน 2555 และคดีหมิ่นสถาบัน กรณีรายการตอบโจทย์ประเทศไทย ที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ เมื่อปี2556 ซึ่งได้ข้อสรุปเป็นที่ยุติแล้วทั้ง2กรณี โดยคดีการชุมนุมทางการเมือง คณะพนักงานสอบสวนชุดเดิมที่มีพลตำรวจเอกชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น ได้สรุปสำนวนคดีเสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนเสนอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงนาม ก่อนยื่นให้พนักงานอัยการพิจารณาว่าจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ กรณีรายการตอบโจทย์ประเทศไทย พบว่าผู้ดำเนินรายการ รวมถึงผู้ร่วมรายการ และผู้อำนวยการสถานีในขณะนั้น รวม11คน มีความผิดฐานหมิ่นสถาบันตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา112 ชัดเจน แต่ยังติดขัดในเรื่องอำนาจการสั่งฟ้อง เนื่องจากผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ส.ส.ท. จึงทำให้ต้องส่งเรื่อง ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นผู้พิจารณา



+++การซื้อหุ้นคืนของบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล  นางวรัชญา ศรีมาจันทร์ ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ตามกฎเกณฑ์การทำหน้าที่ของคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทจดทะเบียน เมื่อมีการขยายการลงทุนหรือการทำอะไรที่ปกติเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท กรรมการควรมีการเปิดเผยรายละเอียดให้ผู้ลงทุนเช่น กรณีของจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล แจ้งว่าจะซื้อหุ้นคืน เปิดเผยข้อมูลถึงสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทว่ามีเงินปันผลจากไหน แต่ไม่มีการให้ข้อมูลด้านขาออก ขณะนี้ ตลท.คงจะยังไม่สามารถขอข้อมูลจากจัสมินเพิ่มเติม เนื่องจากรายละเอียดของการซื้อหุ้นคืนจะต้องรอให้ผ่านที่ประชุมคณะกรรมการและผู้ถือ หุ้นก่อน และที่สำคัญจะต้องรอดูวันที่ 21 มี.ค.นี้เพื่อที่จะประเมินผลกระทบที่มีต่อจัสมินหรือไม่ ในฐานะบริษัทแม่ ความสับสนของข้อมูลจัสมิน ยังดึงดูดให้นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไร ส่งผลให้หุ้นจัสมินมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 2,332 ล้านบาท ขณะเดียวกันราคาผันผวนสูง จากที่ลงไปต่ำสุด  3.36 บาท ก่อนจะเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับสูงสุด 3.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 1.71%



+++ด้าน นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า โดยหลักการแล้ว ในกรณีที่บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ ไม่มาชาระเงินประมูลคลื่น 900 MHz ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ก็จะไม่กระทบกับใบอนุญาตอื่นๆ ที่กลุ่มจัสมินเคยได้รับไปแล้ว เนื่องจากถือว่าเป็นคนละนิติบุคคลกัน หากผู้รับใบอนุญาตไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขการประกอบกิจการ ก็ไม่สามารถไปรอนสิทธิได้



+++เพิ่มสต็อกน้ำดื่มน.ส.วิบูลย์ลักษณ์  ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หารือกับผู้ผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด และสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย ขอความร่วมมือผู้ผลิตน้ำดื่มให้เพิ่มสต็อกปริมาณการเก็บน้ำดื่มบรรจุขวดจาก 5-7 วันเป็น 10 วันเริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.จนสิ้นสุดภัยแล้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าน้ำดื่มจะไม่ขาดแคลนในช่วงหน้าร้อนหรือช่วงภัยแล้งปีนี้  ผู้ผลิตน้ำดื่มยังได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำจากช่วงปกติร้อยละ 20-30 รองรับความต้องการของผู้บริโภคทั่วประเทศด้วย ไม่อยากให้ร้านค้าหรือผู้บริโภคเกิดการกักตุน เพราะจะไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้กักตุน



+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึง กรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสนอให้มี ส.ว.สรรหา ทั้งหมด ในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี ว่า กรธ.ยังไม่ได้มีการพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับที่มา ส.ว.เนื่องจากต้องรอให้รัฐบาลส่งข้อเสนอที่เป็นลายลักษณ์อักษรมาก่อน เพราะที่ผ่านมาเป็นการฟังจากข่าวเท่านั้น ดังนั้น จึงไม่รู้ว่าจะให้ กรธ.พิจารณาหรือปรับแก้ไขเรื่องใด  นายมีชัย กล่าวว่า ไปหนักใจทำไมกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เรื่องนั้นจะมีหรือเปล่ายังไม่รู้เลย การประชุมสนช.ในวันพรุ่งนี้จะมีการหารือ ร่างรัฐธรรมนูญ 3 วาระ



++++การขอข้อมูลเรื่องการครอบครองรถโบราณ ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ขม 99 ที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ มีชื่อเป็นผู้ครอบครอง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า สำนักคดีภาษีอากร ได้รับการประสานจากนายสมศักดิ์ โตรักษา หัวหน้าทีมทนายความวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ดูแลคดีรถโบราณ นัดหมายการเข้าสอบปากคำสมเด็จช่วง ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ในวันที่ 16 มี.ค.ดีเอสไอได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ นำคณะพนักงานสอบสวนเดินทางไปสอบปากคำในวันดังกล่าว เวลา 20.00 น. ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ทั้งนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่สมเด็จช่วงสะดวก เพราะไม่มีกิจนิมนต์ อีกทั้งเกรงช่วงเวลากลางวันจะมีกลุ่มบุคคลมาร่วมตัวกันและเกิดความวุ่นวาย



++++อัยการศาลทหาร พิจารณาเลื่อนฟังคำพิจารณาว่าจะรับคดีฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรณีจัดกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์หรือไม่  เป็นวันที่ 25 มี.ค.นี้ เนื่องจากจำเลยขอให้มีการสอบคำให้การพยานจำเลยเพิ่มอีก 2 ปาก  โดยผู้ต้องหา ประกอบด้วยนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยศึกษา และกลุ่มพลเมืองโต้กลับ พร้อมพวก 5 คน



+++เจอตัว อริสรา ซาร่า มิลส์ เด็กหญิงชาวอังกฤษวัย 13 ปี พร้อมกับนาย เทรเวอร์ มิลส์ ผู้เป็นพ่อชาวอังกฤษที่เดินทางออกจากอักฤษ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เปิดเผยว่า สตม. พบตัวสองพ่อลูกนี้แล้ว โดยขณะนี้ทั้งคู่ได้พักอาศัยอยู่ในอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา โดยสตม. ได้ติดต่อประสานงานให้สองพ่อลูกไปแสดงตัวที่สถานกงสุล จ. เชียงใหม่  จากตรวจสอบการเดินทางของสองพ่อลูก พบว่า มีการเดินทางจากประเทศไทย ไปยังประเทศลาว โดยออกนอกประเทศผ่านเส้นทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 4 เชียงของ-ห้วยทราย จังหวัดเชียงราย และเดินทางกลับมาพักที่ไทยอีกครั้ง โดยขอต่อวีซ่าท่องเที่ยว ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 2 เมษายนนี้  

ข่าวทั้งหมด

X