*เมฆบังสุริยุปราคา แต่ยังเห็นได้บ้างในหลายพื้นที่/ปราบผู้มีอิทธิพลนครปฐม/แถลงทุจริตหักหัวคิวราชภักดิ์*

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.

+++ สุริยุปราคาเหนือฟ้าเมืองไทย ผู้สนใจเตรียมอุปกรณ์กรองแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ให้พร้อม ปรากฏการณ์ในครั้งนี้จะมีขึ้นเวลา 06.20-08.40 น.ตามเวลาประเทศไทย จากการถ่ายทอดสดของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งประเทศไทย ชมได้ชัดเจนที่จ.ฉะเชิงเทราส่วน คนกรุงเทพ รอลุ้นจะได้ชมการเกิดสุริยุปราคา โดย สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.)ได้เตรียมพร้อมตั้งจุดสังเกตการณ์จุดใหญ่ 5 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร ที่สวนเบญจกิติ ถนนรัชดาภิเษก ติดศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ 2.เชียงใหม่ ที่ดาดฟ้าศูนย์การค้าเซนทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ 3.ฉะเชิงเทรา ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษาฉะเชิงเทรา อ.แปลงยาว 4.นครราชสีมา ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษานครราชสีมา ภายใน ม.เทคโนโลยีสุรนารี และ5.สงขลา ที่ลานชมวิวนางเงือก หาดสมิหลา อ.เมือง ซึ่งเป็นจุดสังเกตการณ์ที่จะได้เห็นการบังมากที่สุดใน 5 จุดนี้ โดยแต่ละจุดตั้งกล้องโทรทรรศน์อุปกรณ์สังเกตการณ์คุณภาพสูง และอุปกรณ์สังเกตการณ์ดวงอาทิตย์หลากหลายแบบพร้อมผู้เชี่ยวชาญจคอยให้ความรู้ แต่หากใครไม่สะดวกไปดูตามจุดต่างๆ ก็สามารถติดตามชมได้ที่ www.narit.or.th

+++การปราบปราม ผู้มีอิทธิพล เริ่มปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเช้าตรู่วันที่ 8 มีนาคม โดยเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบ(กกล.รส.) จากศูนย์รักษาความปลอดภัย(ศรภ.) กองพลทหารราบที่ 9 กองกำลังตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) กว่า 100 นาย แบ่งกันเข้าตรวจค้นบ้านผู้มีอิทธิพล ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 324/2558 กำหนดให้มีการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลที่มีพฤติกรรมเป็นผู้กระทำความผิด 16 มูลฐานความผิดให้บรรลุผลใน6เดือน  ผลจากการตรวจค้น 8 จุด เจ้าพนักงานได้แจ้งข้อหาและจับกุมต้องหาดำเนินคดี  นางสาวชนันชิดา มาลนมาน อายุ37ปี ข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตมีเครื่องยุทธภัณฑ์ของทางข้าราชการไว้ในความครอบครองมีวิทยุ คมนาคมไว้ในครอบครอง ,2.นายวิชาญ พรมเอียดอายุ 43 ปี ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตมีเครื่องยุทธภัณฑ์ของทางราชการไว้ในครอบครองมีวิทยุคมหน้าคมไว้ในครอบครอง 3. นางสาวมาลินี บุญมีอายุ 46 ปีข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตมีเครื่องยุทธภัณฑ์ของทางราชการไว้ในครอบครองมีวทยุคมานคมไว้ในครอบครอง,4. นางชนิสรา บุญมี ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง 5. นายนนทวัชร์ เถาตะกูอายุ 41 ปี ข้อหามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนในครอบครอง6. นายนลพรรณ เกษศรีอายุ 23 ปี ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง สำหรับกลุ่มที่ถูกตรวจค้นครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิดนักการเมืองทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ถือว่าเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่พอสมควร

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวว่า การปราบปรามผู้มีอิทธิพลนั้น ก็เป็นเรื่องของผู้มีอิทธิพล จะอยู่การเมือง ทหาร หรือตำรวจ จะอยู่กับใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพ่อหรือเจ้าแม่ ทุกคนถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลไม่สนใจแต่อาจจะเป็นคนของนักการเมืองบ้าง

+++มีรายงานจากที่ประชุมมอบนโยบาย และข้อราชการสำคัญเร่งด่วนในการบริหารงานพื้นที่แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ที่มีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธาน ระบุว่า ที่มีการปิดลับนั้นเพื่อยื่นซองบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพลให้กับผู้ว่าฯแต่ละราย ทำให้ผู้ว่าฯจะรู้ข้อมูลเฉพาะของจังหวัดตัวเองเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลอยากให้ทำเรื่องนี้เป็นเรื่องลับ บางสิ่งอาจไปกระทบกับบุคคล จึงต้องมีการปิดห้องหารือ แล้วไม่ให้นำเครื่องมือสื่อสารเข้ามาภายใน

+++ส่วนการเดินหน้า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง ประเด็นส.ว.พูดคุยกันว่าถ้ามาจากการสรรหาทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ผสมจะเป็นอย่างไร คัดสรรจะเป็นอย่างไร ถ้าจะให้มีส.ว.เลือกนายกฯ แต่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวไม่เห็นด้วย น่าจะเป็นกลไกของสภามากกว่า บางคนก็หวังดีแต่อาจไม่ตรงกับความต้องการของคนส่วนมาก อะไรที่ทำได้ผมก็ให้ในเรื่องประชาธิปไตย แต่อันไหนที่ควรสงวนไว้บ้างอาจต้องไปใส่ไว้ในบทเฉพาะ กาลบ้างหรือไม่ ไม่ใช่จะไปควบคุมทั้งหมด

+++ส่วนกรณีพล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสปท. ส่งข้อความทางไลน์เปิดเผยมีพล.อ.ไปเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งตำรวจจนมีการเขียบบทความวิจารณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวว่า วิจารณ์กันไปเอง บอกได้ว่าตนไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้และไม่เกี่ยวกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไปเขียนกันส่งเดช   

+++ด้านนายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรธ. แถลงหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติปรับแก้การให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยกรณีไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญบังคับแก่กรณีใด ในมาตรา 5/1 หรือมาตรา 7 เดิม เป็นกำหนดให้กรณีฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ และองค์กรอิสระ เห็นว่าไม่มีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นไปตามนั้นหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นชอบก็เรียกประมุขจากทุกอำนาจ ได้แก่ นายกฯ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครอง สูงสุด และประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญทั้งหมดมาร่วมวินิจฉัย หากมีไม่ครบก็ให้ใช้องค์ประชุมเท่าที่มี โดยการชี้ขาดให้ใช้เสียงข้างมาก การปรับแก้ในส่วนนี้เกิดจากการรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่กรธ.นำมาทบทวนและแสวงหาหลักเกณฑ์ปรับลดอำนาจ ไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยอยู่องค์กรเดียวตามเสียงวิจารณ์  

+++ส่วนมาตรา 231 ว่าด้วยการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ที่ให้ อำนาจป.ป.ช.ไต่สวนเบื้องต้นแล้วส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ปรับเปลี่ยนให้ศาลฎีกาวินิจฉัยแทน แต่ถ้ากรณีป.ป.ช.เป็นผู้ฝ่าฝืนจริยธรรมเองก็ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระขึ้นมาตรวจสอบ จากนั้นส่งเรื่องให้ศาลฎีกาเป็นผู้วินิจฉัย ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกภาคส่วนอยู่ใต้มาตรฐานจริยธรรมเดียวกัน

+++ ส่วนการอุทธรณ์ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง เดิมให้อุทธรณ์ได้แต่ข้อกฎหมาย ทางกรธ.ได้เพิ่มให้สามารถอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้หากมีหลักฐานใหม่ กำหนดกรอบต้องยื่นภายใน 30 วัน ขณะที่องค์คณะกำหนดให้องค์คณะชั้นอุทธรณ์ มี 9 คน มาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเลือก มาจากผู้พิพากษาในศาลฎีกา จากผู้ที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าหัวหน้าคณะในศาลฎีกา หรือผู้พิพากษาอาวุโส ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา

+++ 10 มี.ค. สนช.จะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... เป็นการพิจารณา 3 วาระรวด วาระแรกและวาระ 3 จะลงมติขานชื่อรายบุคคล ส่วนวาระ 2 ใช้การโหวตออกเสียง ดังนั้น ก่อนลงมติจะให้สมาชิกอภิปรายอย่างเต็มที่ ไม่ได้กำหนดเวลาเช่นครั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ใช้เวลาในการพิจารณาพอสมควร

+++ปิดบัญชีจำนำข้าว นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว เผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวรอบ 30 ก.ย.2558 ว่าคณะอนุ กรรมการปิดบัญชีฯสรุปผลการปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว วันนี้ได้รายงานพล.อ.ประยุทธ์รับทราบ ก่อนทำรายงานสรุปเป็นทางการเสนอนายกฯ ในฐานะประธา คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) รับทราบอีกครั้ง โดยผลขาดทุนเพิ่มไม่ถึง 100,000 ล้านบาท และยืนยันว่าไม่มีข้าวหาย

+++ส่วนการสอบอุทยานราชภักดิ์  พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงความชัดเจนการตรวจสอบการก่อสร้างโครง การอุทยานราชภักดิ์ ว่าขณะนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยังตรวจสอบอีก เล็กน้อย ส่วนที่นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าฯสตง.ระบุพร้อมจะแถลงผลการตรวจสอบนั้น จะเรียกนายพิศิษฐ์เข้าหารืออีกครั้ง ส่วนการตรวจสอบเรื่องหักหัวคิว สตง.ตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนที่มีข้อสงสัยว่านายสุชาติ พรมใหม่ และนายคชาชาติ บุญดี คนใกล้ชิดพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ที่หลบหนีคดีหมิ่นมาตรา 112 มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ เพราะตนไม่ได้เกี่ยวกับการตามตัวทั้ง 2 คนมาดำเนินคดี เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ตนมีหน้าที่เพียงตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลหรือทุจริตต่างๆ ทั้งนี้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาทุจริตหรือไม่ เพราะตนยังไม่ได้แถลงอะไร การที่ทั้ง 2 คนหลบหนี เรามีสิทธิคิดได้ แต่จะไปบอกได้อย่างไรว่าเขาทุจริต เดี๋ยวตนจะแถลงเอง